posttoday

ธปท.รับส่งออกปีนี้เสี่ยงโตต่ำกว่าเป้า

30 มกราคม 2558

ธปท.เผยภาวะศก.เดือนธ.ค.ปีที่แล้วฟื้นตัวช้า น้ำมันลดส่งผลการใช้จ่ายน้อยกว่าที่คาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูงทำเงินบาทแข็งค่า

ธปท.เผยภาวะศก.เดือนธ.ค.ปีที่แล้วฟื้นตัวช้า น้ำมันลดส่งผลการใช้จ่ายน้อยกว่าที่คาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูงทำเงินบาทแข็งค่า

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจในเดือนธ.ค.ปีที่แล้วฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาด และเป็นไปอย่างช้าๆ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักๆมาจาก 1.การส่งออกสินค้าที่ไปสหรัฐดีขึ้น แต่เนื่องจากส่งออกไทยยังมีปัจจัยถ่วงมากทำให้ขยายตัวได้ไม่สูงนัก 2.ภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น จากนักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซียที่เพิ่มขึ้นช่วยชดเชยนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น ยุโรป และรัสเซียที่ลดลงได้ และ 3.การใช้จ่ายภาครัฐที่เริ่มขยายตัวดีขึ้น

สำหรับการใช้จ่ายภาคเอกชนแผ่วลงบ้าง เนื่องจากราคาน้ำมันที่ต่ำลงไม่ได้ช่วยให้การใช้จ่ายในประเทศปรับดีขึ้นไม่มากนัก เพราะครัวเรือนยังระมัดระวังการใช้จ่าย เพราะหนี้ครัวเรือนยังสูง สอดคล้องกับธนาคารพาณิชย์ที่ยังระมัดระวังการปล่อยกู้ โดยสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 15.34 ล้านล้านบาท หรือขยายตัว 4.5% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่ภาคธุรกิจรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเริ่มลงทุนอย่างชัดเจนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันโลกที่ต่ำลงทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง โดยเดือนธ.ค.ปีที่แล้วถือว่าเกนดุลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5,523 ล้านเหรียญสหรัฐ การเกินดุลถึงจะดีต่อเศรษฐกิจภาพรวม โดยเกินดุลต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 3 แล้ว แต่การเกินดุลสูงก็มีส่วนทำให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มปรับแข็งค่าขึ้น

“แต่ขณะนี้ ธปท.ยังมองการขยายตัวเศรษฐกิจโตที่ 4% เท่าเดิม ซึ่งไม่ถือว่าแตกต่างจากกระทรวงการคลังที่มองว่าจะโตที่ 3.9% ถือเป็นมุมมองที่สอดคล้องกัน เพราะตัวเลขต่างกันนิดเดียว อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าราคาน้ำมันที่ลดลงส่งผลต่อการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด แต่ในระยะต่อไปคาดว่าจะดีขึ้นได้ แต่ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงมีผลให้ราคาสินค้าส่งออกไทย 1 ใน 5 ลดลง อาทิ สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์เคมี เป็นต้น ซึ่งถ้าไม่มีปัจจัยอื่นมาช่วยอาจทำให้การส่งออกปีนี้มีโอกาสโตต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ที่ 1%” นายดอนกล่าว