เปิดตำนาน ตรามงกุฎ ผู้นำพลาสติกและกระติกน้ำไทย
โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน
โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน
หลายตำนานของธุรกิจไทยเริ่มที่สำเพ็ง รวมถึงสินค้าพลาสติกและกระติกน้ำ ตรา มงกุฎ ที่เป็นแบรนด์ยาวนานในประเทศไทย ที่สามารถรักษาเอกลักษณ์ของสินค้า พร้อมปรับดีไซน์ ยึดคุณภาพ จนสามารถแข่งขันกับตลาดที่รุนแรงมากขึ้นได้
“วิลาวรรณ ชื่นมีเชาว์” ผู้บริหารร้าน ยุวภัณฑ์ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยุวภัณฑ์ เปิดเผยว่า ตรามงกุฎ (Crown ware) อยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 50 ปี และเป็นแบรนด์แรกๆ ในประเทศไทยที่ทำสินค้าเกี่ยวกับพลาสติกทั้งในครัวเรือน และกระติกน้ำ ที่มีสินค้ารวมแล้วประมาณ 150-200 แบบ สิ่งที่แบรนด์ยึดมั่นมาตลอดตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจจากรุ่นคุณพ่อ (พ่อของสามี) คือ การยึดคุณภาพของสินค้า มีแบบให้ลูกค้าเลือกหลากหลาย และสินค้ามีอายุการใช้นานที่ทนทาน
“แบรนด์และโรงงานถูกปลูกฝังมาตลอดคือ การให้ความสำคัญกับคุณภาพ เลือกวัตถุดิบที่ดี แม้ว่าต้นทุนเพิ่มขึ้นก็ห้ามลดคุณภาพอย่างเด็ดขาด ให้ความจริงใจและบริการที่ดีแก่ลูกค้า โดยมีตัวแทนจำหน่ายสินค้าไปในทั่วประเทศ ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้สะดวก ราคาไม่แพง ส่งผลให้ลูกค้าเชื่อมั่น และซื้อต่อเนื่อง” วิลาวรรณ กล่าว
ที่สำคัญการมีหน้าร้านแห่งนี้ที่สำเพ็ง ที่มีจุดเริ่มต้นจากรุ่นคุณพ่อ ร้านทำให้ได้พบกับลูกค้าทั่วประเทศ ลูกค้าส่ง และลูกค้าต่างชาติที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่เดินทางเข้ามาเลือกซื้อสินค้า จึงได้รู้ถึงความต้องการของลูกค้าที่มีอย่างหลากหลาย และร้านแห่งนี้ก็มีเอกลักษณ์คือ พร้อมแนะนำลูกค้าทุกคนในทุกเรื่อง มีสินค้าแคตตาล็อกให้ลูกค้าเลือกและสามารถสั่งได้ตามแบบที่ต้องการ ถือเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญ
“คณิน ชื่นมีเชาว์” ผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท ศตวรรษพลาสติก ทายาทรุ่น 3 ของแบรนด์ “ตรามงกุฎ” กล่าวว่า ธุรกิจหลักของบริษัทมี 2 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจพลาสติกที่เป็นธุรกิจแรก มีพลาสติกทุกประเภท มีหน้าร้านอยู่ที่สำเพ็ง ชื่อร้าน “ยุวภัณฑ์” ธุรกิจต่อมา เป็นรุ่นสอง ได้ขยายกลุ่มไปยังการรับผลิตชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รูปแบบรับจ้างผลิต (โออีเอ็ม) ส่วนโรงงานอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ มีแรงงานในโรงงานรวม 300 คน
“คณิณ” กล่าวว่า ในขณะนี้การแข่งขันในธุรกิจมีความรุนแรงมาก เพราะมีคู่แข่งจากประเทศจีนที่เน้นผลิตจำนวนมากและขายราคาถูก รวมทั้งลูกค้าจากต่างประเทศก็ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจคือ ต้องปรับตัวรับมือทุกปัจจัยและหาโอกาสตลาดใหม่ที่มีอีกมาก เพราะในทุกตลาดมีโอกาสเสมอ อยู่ที่บริษัทต้องหาให้เจอ
ส่วนการปรับแผนธุรกิจในโรงงานในภาวะที่ต้นทุนสูงขึ้น ต้องมุ่งลดต้นทุนในโรงงาน ปรับลงทุนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รักษาคุณภาพสินค้า เพราะเป็นสิ่งที่บริษัทรักษาต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น ซึ่งนอกจากการบริษัททำตลาดในประเทศแล้ว ก็ยังเป็นผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้แก่แบรนด์ต่างประเทศมายาวนาน ในปัจจุบันสัดส่วนการผลิต แบ่งเป็น โออีเอ็ม 80% และในประเทศ 20%
“คณิน” กล่าวต่อว่า ได้เข้ามาได้เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจ 5 ปีที่ผ่านมาและช่วยคุณแม่วิลาวรรณ ที่ร้าน ยุวภัณฑ์ โดยได้เข้ามาช่วยพัฒนาและด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ จึงได้เห็นช่องทางของสินค้า ซึ่งได้พัฒนาสินค้าใหม่ มีดีไซน์เด่น และสีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เข้ามาทำตลาด รวมทั้งเตรียมเปิดตัวแบรนด์ลูก ชื่อว่า Food focus ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเจาะตลาดอาหารแบบกล่องที่โตดี รวมทั้งทำให้สินค้ามีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานสูงสุด เพราะทุกแบบได้รับการรับรองมาตรฐานผลิต
“การเปิดตัวแบรนด์ลูก Food focus ยึดถือคุณภาพตามแบรนด์แม่คือ ตรามงกุฎ สินค้าต้องมีคุณภาพ มีความทนทานต่อการใช้งาน รวมทั้งมุ่งดีไซน์สินค้าให้มีเอกลักษณ์และมีความสดใสมากขึ้น รวมทั้งกำลังขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสหาลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ” คณิน กล่าว
พร้อมกันนี้สนใจขยายตลาดไปในอาเซียน ทั้งประเทศพม่า และประเทศลาว ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาลูกค้าและการลงทุน ซึ่งในระยะยาวอาจเห็น ชาวพม่าถือปิ่นโตแบบใหม่ที่บริษัทผลิตขึ้น รวมทั้งสนใจรุกตลาดสินค้าเพื่อกลุ่มผู้สูงอายุที่กำลังขยายตัวดีเช่นกัน ส่วนภาพรวมยอดขายรวมของบริษัทในประเทศปีนี้คาดว่าจะเติบโต 10%
กลยุทธ์ทำธุรกิจ
-รักษาคุณภาพสินค้า
-มีสินค้าหลากหลายดีไซน์
-ให้ความสำคัญกับลูกค้า
-หาโอกาสตลาดใหม่