posttoday

สาวรุ่นใหม่หัวใจเกษตร ปั้น‘สวีทแอนด์กรีน’ลุยตลาด

17 กรกฎาคม 2558

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

ธุรกิจเกษตรไม่ใช่ธุรกิจที่ทำกันได้ง่ายๆ นอกจากเรื่องการปลูกที่ต้องอาศัยความชำนาญแล้ว ยังมีเรื่องของการขายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงต้องมีการบริหารจัดการที่ดีถึงจะไปได้สวย ทว่าในยุคที่คนในสังคมใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น โหยหาผลิตภัณฑ์ประเภทพืชผักผลไม้ปลอดสารพิษเพื่อสุขภาพ จึงทำให้คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยสนใจการทำธุรกิจเกษตรเพื่อมารองรับความต้องการกลุ่มนี้

อรชา เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท เบิกบาน ผลิตและจำหน่ายพืชผักออร์แกนิกและผลไม้ปลอดภัย แบรนด์ สวีท แอนด์ กรีน เปิดเผยว่า ที่มาของธุรกิจนี้มาจากที่ตัวเองมีความผูกพันเดินตามฟาร์มผักตั้งแต่เด็ก เพราะคุณปู่ก็ทำเรื่องนำเข้าเมล็ดพันธ์ุจากเมืองจีน คุณพ่อ (พงษ์เทพ เจียรวนนท์) ก็เคยทำงานด้านธุรกิจเกษตร ขณะเดียวกันได้แรงบันดาลใจจากการที่คุณแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง ทำให้คนในครอบครัวเริ่มใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น

เมื่อเรียนจบปริญญาโท จึงหารือคุณพ่อว่า อยากลองปลูกพืชผักเพื่อสุขภาพดู โชคดีที่มีที่ดินบริเวณทางไปเขาใหญ่อยู่แล้ว จึงเริ่มจากการใช้ที่ดินที่มีมาปรับปรุงทำฟาร์มผักผลไม้ภายใต้ชื่อ สวีท แอนด์ กรีน และจ้างนักวิชาการเกษตรมาช่วยเรื่องปรับพื้นที่เพื่อเพาะปลูก พัฒนาผลิตภัณฑ์ ประเมินเงินลงทุนไว้ 20-30 ล้านบาท ในระยะ 5 ปีนับจากวันเริ่มธุรกิจ

“สาเหตุที่ตั้งชื่อฟาร์ม สวีท แอนด์ กรีน เพราะสวีทสะท้อนให้เห็นความหวานอร่อยของผลไม้ ส่วนกรีน สะท้อนการจำหน่ายผัก และเห็นภาพเรื่องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” อรชา กล่าว

กว่าที่ผลิตภัณฑ์จะออกขายได้ ก็ใช้เวลาเพาะปลูก ลองผิดลองถูก พัฒนาระบบในฟาร์มนานกว่า 1 ปี ฟาร์มมีพื้นที่ 50 ไร่ เป็นพื้นที่เพาะปลูก 25 ไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่ระบบสาธารณูปโภค ปัจจุบันได้ขยายฟาร์มเพิ่มอีกแห่งพื้นที่ใกล้เคียงกัน และปลายปีนี้จะขยายฟาร์มอีก 1 แห่ง คาดว่ารองรับการผลิตพืชผักออร์แนิกและผลไม้ปลอดภัยได้ 3-4 ปี

ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผักออร์แกนิกส์ จะมีผักสลัด ร็อกเก็ต คะน้า กวางตุ้ง และเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องตามความต้องการของผู้บริโภค กลุ่มนี้ไม่ใช้สารเคมี ใช้ปุ๋ยชีวภาพ ปลูกด้วยวิธีธรรมชาติ อีกกลุ่มคือ กลุ่มผักและผลไม้ปลอดภัย เช่น พืชตระกูลแตง เมลอน แตงโม มะเขือเทศ และหน่อไม้ฝรั่ง กลุ่มนี้จะเลือกใช้สารเคมีที่ไม่มีผลต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และเป็นสารเคมีที่ย่อยสลายในแสงอาทิตย์ได้ใน 2 วัน

ขณะที่การจำหน่ายแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ ขายส่ง ให้ร้านอาหารพื้นที่ปากช่อง เขาใหญ่ และกรุงเทพฯ รวมถึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์บางประเภทในห้างสรรพสินค้า เช่น ส่งหน่อไม้ฝรั่งจำหน่ายในห้างสรรพสินค้ากลุ่มเดอะมอลล์ อีกช่องทางคือ ขายปลีก มีทั้งที่ขายหน้าฟาร์ม และการไปออกอีเวนต์ตามศูนย์การค้าต่างๆ โดยขายภายใต้แบรนด์ สวีท แอนด์ กรีน ซึ่งการออกอีเวนต์มีแทบทุกสัปดาห์ วันที่ 11-12 ก.ค.ที่ผ่านมา เพิ่งไปออกบูธในอีเวนต์ที่ เค-วิลเลจ ฟาร์มเมอร์ส์ มาร์เก็ต แอท เค-วิลเลจ สุขุมวิท 26 และบางกอก ฟาร์มเมอร์ส มาร์เก็ต แอท เกตเวย์ เอกมัย

อรชา กล่าวว่า แนวโน้มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้รับความสนใจจากคนไทยมากขึ้น เห็นได้จากจำนวนอีเวนต์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ปีนี้เพิ่มมากจากปีที่ผ่านมา รวมถึงกระแสตอบรับผู้บริโภคที่ไปซื้อสินค้าหน้าฟาร์มเพิ่มต่อเนื่อง ทั้งที่ฟาร์มสวีท แอนด์ กรีน รวมถึงฟาร์มอื่นๆ ดังนั้นบริษัทคงขยายธุรกิจต่อเนื่องให้สอดคล้องความต้องการผู้บริโภค โดยจะทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ขยายรวดเร็ว เพราะต้องการให้ความสำคัญเรื่องการควบคุมคุณภาพ รวมทั้งจะพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง เช่น เดิมปลูกแตงโมมีเมล็ดอย่างเดียว อาจพัฒนาปลูกแตงโมไม่มีเมล็ด และปลูกมะเขือเทศพันธุ์ใหม่ๆ มากขึ้น

นอกจากนี้ จะนำแบรนด์ สวีท แอนด์ กรีน ต่อยอดเพิ่ม ทั้งการขยายประเภทผลิตภัณฑ์ และการนำผลิตภัณฑ์พืชผัก ผลไม้ที่มีอยู่เดิมไปแปรรูป ที่ผ่านมาก็ทำบ้างแล้วแต่ยังไม่เป็นรูปธรรม อาทิ น้ำสลัด
น้ำผลไม้ แต่ต่อไปจะทำเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ มากขึ้น หากเป็นไปได้ก็อยากพัฒนาฟาร์มสวีท แอนด์ กรีน เป็นฟาร์มสำหรับท่องเที่ยวศึกษาและเรียนรู้ แต่คงต้องรอให้ฟาร์มใหม่ๆ ที่เปิดสร้างผลผลิตได้เต็มที่ก่อนจึงนำฟาร์มแรกมาใช้ท่องเที่ยวได้ เพราะหากฟาร์มแรกยังเป็นพื้นที่หลักสร้างผลผลิต อาจไม่สะดวกต่อการทำท่องเที่ยวฟาร์ม เนื่องจากกังวลเรื่องควบคุมคุณภาพผลผลิต ความปลอดภัยจากศัตรูพืช แมลงต่างๆ ที่อาจเข้ามารบกวน

หลักการทำงานสำคัญ คือ เน้นเป็นพันธมิตรกับฟาร์มอื่นๆ มากกว่ามองเป็นคู่แข่ง เพราะเชื่อว่าการเป็นพันธมิตรแลกเปลี่ยนความรู้กัน ช่วยเหลือกันจะดีต่อส่วนรวมทำให้โตไปด้วยกัน เนื่องจากธุรกิจนี้ก็โตต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องแข่งกันรุนแรง นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญเรื่องทีมเวิร์ก ให้พนักงานในฟาร์มทุกคนรู้สึกว่า สวีท แอนด์ กรีน เป็นแบรนด์ที่ทุกคนมีส่วนร่วมกันสร้างมา หากระหว่างทำงานมีปัญหาอะไรกันก็จะเปิดโอกาสให้ทีมงานแสดงความคิดเห็นเต็มที่ หากลูกค้ามีคำตำหนิตัวผลิตภัณฑ์มาก็จะรีบหาสาเหตุทันทีพร้อมแก้ไขที่สาเหตุ

“สิ่งที่ยึดมั่นคือ ผลผลิตที่ออกสู่มือผู้บริโภคต้องมีคุณภาพและความปลอดภัย เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นอยากกลับมาซื้ออีกในอนาคต รวมถึงบอกต่อแบบปากต่อปากไปยังคนรู้จัก ทำให้สวีท แอนด์ กรีน เป็นที่รู้จักมากขึ้น” อรชา กล่าว

อรชา ฝากส่งท้ายว่า หากใครสนใจทำธุรกิจเกษตรเช่นกัน ขอให้เตรียมความพร้อมให้ดี ถ้ายังไม่มีความรู้ด้านการเกษตรต้องไปศึกษาหาความรู้เพิ่มก่อนลงมือทำ หรือหากมีกำลังทรัพย์ควรจ้างนักวิชาการเกษตรเข้ามาช่วย และการเริ่มต้นทำ ควรเริ่มจากทำอะไรเล็กๆ ก่อน จากนั้นจะเห็นช่องทางการต่อยอดได้เอง ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการลงทุนใหญ่ๆ

หากมุ่งมั่นและตั้งใจ ธุรกิจเกษตรก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปสำหรับคนรุ่นใหม่