กระเป๋า Araya แบรนด์โอท็อปสู่ตลาดอินเตอร์
ความทนทานของวัสดุป่านศรนารายณ์ ประกอบกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้แลดูทันสมัย
โดย...ไชยวัฒน์ สาดแย้ม
ความทนทานของวัสดุป่านศรนารายณ์ ประกอบกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้แลดูทันสมัย เหมาะสำหรับบุคคลหลายวัย อายุใช้งานกว่า 10 ปี ซักทำความสะอาดได้ สีไม่ตก และไม่ขึ้นรา ทำให้กระเป๋าป่านศรนารายณ์ แบรนด์ Araya หรือ “อารยา” ของกลุ่มอาชีพสตรีจักสานป่านศรนารายณ์ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ จนสามารถขยายตลาดส่งออกไปขายยังต่างประเทศ
ณัฐระวี เดื่อมขันธ์มณี ประธานกลุ่มอาชีพสตรีจักสานป่านศรนารายณ์ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี บอกว่า ป่านศรนารายณ์เป็นเส้นใยจากวัสดุธรรมชาติ เดิมทีมีอยู่ในท้องถิ่นอยู่แล้ว ต่อมาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ส่งเสริมให้มีการปลูกมากขึ้น หลังจากมีการปลูกจนได้จำนวนมากแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระเมตตาให้เจ้าหน้าที่มาสอนวิธีการทำเส้นใยป่าน และการแปรรูปเป็นผลผลิตสินค้าจักสานต่างๆ เช่น หมวก กระเป๋า รองเท้า เพื่อชาวบ้านจะได้มีรายได้เสริมเพิ่มขึ้นจากการประกอบอาชีพที่ทำอยู่
“ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นอาชีพหลักไปแล้ว เนื่องจากได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง จนถึงขั้นมีการส่งออกไปขายต่างประเทศ นอกจากนี้ยังได้รับการคัดสรรให้เป็นสินค้าโอท็อปในระดับ 5 ดาว ต่อเนื่อง 2-3 สมัยมาแล้ว และปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ประมาณ 60 ครัวเรือน”
ณัฐระวี เล่าว่า สำหรับการตลาดจะเน้นไปที่การออกแบบให้ตรงความต้องการของตลาดแต่ละกลุ่ม เช่น สีสดใส เหมาะกับตลาดยุโรปและวัยรุ่น สีธรรมชาติ สำหรับลูกค้าในตลาดญี่ปุ่น จับกระแสแฟชั่น ตลอดจนคำแนะนำของลูกค้ามาประยุกต์ ทำให้ปัจจุบันนี้มีสินค้าแบบต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อหามากกว่า 100 แบบ โดยเฉพาะกระเป๋าเป็นสินค้าขายดีเป็นอันดับหนึ่ง
“เรามีวางจำหน่ายในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้เรายังมีการส่งออกไปขายยังต่างประเทศอีกหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมนี สิงคโปร์ แคนาดา จีน มาเลเซีย สำหรับแผนการตลาดขั้นต่อไป ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะต้องทำยอดขายให้มีมากขึ้นไปทุกๆ ปี อย่างน้อย 20% นอกจากนี้แล้วยังได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในชื่อ “อารยา” (Araya) เพื่อจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ของสินค้าได้ง่ายขึ้น”
ณัฐระวี บอกว่า สิ่งที่ภูมิใจมากๆ ก็คือยอดขายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้สมาชิกแต่ละคนนั้นมีรายได้ในแต่ละเดือนประมาณ 7,000-1 หมื่นบาท ขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคน ในแต่ละปีจะมีรายได้เข้ากลุ่มนับหลายล้านบาท