ซีไอเอ็มบีไทยหั่นจีดีพีเหลือ 2.5%

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ชี้ไทยเผชิญ 4 กับดักทำเศรษฐกิจโตต่ำ หั่นจีดีพีปีนี้เหลือ 2.5% และปี 59 เหบือ 3.3% เตือนผู้นำเข้าระวังบาทผันผวนอ่อนค่าแรง

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2558 จาก 3.3% เป็น 2.5% และในปี 2559 จาก 4.1% เป็น 3.3% ท่ามกลางความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมีสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ทั้งความไม่แน่นอนในการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ เศรษฐกิจจีนชะลอตัว ราคาน้ำมันที่ลดลงจนกระทบราคาสินค้าเกษตร รวมทั้งโครงการลงทุนภาครัฐที่อาจเลื่อนไปปีหน้า

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะคงไว้ที่ระดับ 1.5% ตลอดปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป และสำรองไว้ใช้หากเกิดความเสี่ยงเศรษฐกิจที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการรับมือดอกเบี้ยสหรัฐขาขึ้น อาจจะเห็น กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ได้ในปลายปีหน้า

ด้านค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่า จากสงครามค่าเงินที่มาเร็วกว่าคาดและจีนกระโดดมาร่วมวงด้วย ทำให้ธนาคารปรับคาดการณ์เงินบาทปลายปีนี้มีโอกาสจะแตะ 37 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และปลายปีหน้าอ่อนค่าลงถึง 38 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม อาจมีโอกาสเห็นบาทอ่อนไปถึง 40 บาทต่อเหรียญสหรัฐได้ หากไทยปรับมาใช้นโยบายการเงินที่เน้นอัตราแลกเปลี่ยนที่แข่งขันได้ และสงครามค่าเงินในภูมิภาครุนแรงขึ้น

"ขอเตือนผู้ส่งออกว่าอย่าชะล่าใจว่าบาทจะอ่อนเข้าไปในทิศทางเดียวตลอด ระวังกลางเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ บาทอาจวกกลับมาแข็งค่าได้หากสหรัฐเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน จะมีผลให้เงินลงทุนเข้ามาตลาดทุนได้ในระยะสั้น แต่สุดท้ายเชื่อว่าไทยต้องหันมาใช้มาตรการบาทอ่อนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในที่สุด ดังนั้นผู้นำเข้าระมัดระวังความผันผวนด้วยการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินไว้" นายอมรเทพ กล่าว

นายอมรเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญ 4 กับดัก ที่ทำให้ไม่สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ ประกอบด้วย กับดักที่ 1.ไทยยังคงติดกับดักรายได้ปานกลางจากเศรษฐเติบโตต่ำต่อเนื่อง 2.กับดักทางการเงินและสภาพคล่อง เพราะคนขาดกำลังซื้อและปัญหาหนี้ครัวเรือน จึงเห็นว่าสินเชื่อเพื่อการลงทุนและการบริโภคไม่ได้เติบโตแม้ดอกเบี้ยจะต่ำ

สำหรับกับดักที่ 3. คือกับดักความเชื่อมั่น ทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก การส่งออกหดตัวทำให้ความเชื่อมั่นที่จะลงทุนไม่มี  และกับดักสุดท้าย คือ กับดักประชากรที่ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาสังคมผู้สูงอายุและการขาดแคลนแรงงานที่จะมีผลทำให้จีดีพีโตต่ำลงจากปัจจุบันได้อีก