สิทธิประโยชน์ใหม่ ๆ เพื่อ "ผู้ประกันตน"
เดือนธันวาคม เป็นช่วงเวลาที่คนทำงานโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนหรือผู้ประกันตน ทำงานด้วยความสุข สนุกสนาน
เดือนธันวาคม เป็นช่วงเวลาที่คนทำงานโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนหรือผู้ประกันตน ทำงานด้วยความสุข สนุกสนาน เพราะเป็นการทำงานเดือนสุดท้ายของปีซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน และยังใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้หลายคนยังใจจดจ่ออยากให้ถึงสิ้นเดือนเร็ว ๆ เพื่อจะได้รับเงินเดือนพร้อมกับโบนัสตอบแทนการทำงานที่เหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งปี
“น้องออมสุข” ขอเป็นกำลังใจกับผู้ประกันตนทุกคน และจะขอทบทวนสิทธิประโยชน์ใหม่ ๆ ของ พระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 ที่มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2558 โดยไม่ต้องออกกฎหมายลำดับรอง ดังต่อไปนี้
1. ขยายความคุ้มครองไปถึงลูกจ้างชั่วคราวทุกประเภทของส่วนราชการและลูกจ้างของนายจ้างที่มีสำนักงานในประเทศและไปประจำทำงานในต่างประเทศ
2. เงินเพิ่มที่นายจ้างต้องจ่ายไม่เกินเงินสมทบที่ค้างชำระ โดยให้มีผลใช้บังคับกับนายจ้างซึ่งยังมิได้นำส่งเงินสมทบหรือเงินเพิ่มหรือนำส่งไม่ครบจำนวนอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 ใช้บังคับ
3. ประโยชน์ทดแทนไม่อาจโอนกันได้และไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
4. การเรียกร้องหรือการได้มาซึ่งสิทธิหรือประโยชน์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคมไม่เป็นการตัดสิทธิหรือประโยชน์ที่ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิพึงได้รับตามกฎหมายอื่น
5. ขยายระยะเวลาการขอรับประโยชน์ทดแทนจาก 1 ปี เป็น 2 ปี
6. การคำนวณค่าจ้างรายวันในการจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้ให้แก่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ให้คำนวณโดยนำค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบสูงสุด 3 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนเดือนที่มีสิทธิมารวมกันเป็นฐานในการคำนวณแล้วหารด้วย 90 ในกรณีที่ผู้ประกันตนมีค่าจ้างไม่ครบ 3 เดือนให้คำนวณจากค่าจ้างเฉลี่ยเป็นรายวัน
7. กรณีที่ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยตามมาตรา 64 และเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพตามมาตรา 71 หรือเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรตามมาตรา 67 ในช่วงเวลาเดียวกันให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยและเงินสงเคราะห์เพื่อการคลอดบุตร หรือมีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพและเงินสงคราะห์เพื่อการคลอดบุตรแล้วแต่กรณี
8. ให้ความคุ้มครองผู้ที่จงใจทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ และตาย
9. ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตรเมื่อภายในระยะเวลา 15 เดือนได้จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือนและมีสิทธิได้รับไม่จำกัดจำนวนครั้ง
10. เพิ่มเงินสงเคราะห์กรณีที่ผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย
11. ผู้เจ็บป่วยเรื้อรังมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีตาย
12. ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีสงคราะห์บุตร คราวละไม่เกิน 3 คน
13. ผู้ประกันตนสามารถทำหนังสือระบุบุคคลผู้มีสิทธิรับเงินบำเหน็จชราภาพไว้ล่วงหน้าได้โดยให้มีสิทธิได้รับร่วมกับทายาท
14. นายจ้างยื่นแบบรายการตามมาตรา 34 หรือแจ้งขอเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการตามมาตรา 44 อันเป็นเท็จ หรือไม่ยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 47 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
15. ผู้ทุพพลภาพอยู่ก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2538 มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ตลอดชีวิต
ในโอกาสหน้า “น้องออมสุข” จะมาบอกเล่าสาระสำคัญของพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 ใน ส่วนอื่น ๆ ต่อไปครับ
ติดต่อสอบถามงานประกันสังคม 24 ชั่วโมง โทร.สายด่วน 1506
รายละเอียดเพิ่มเติม www.sso.go.th