อธิวัฒน์ อัศวศิรโยธิน คลื่นลูกใหม่ เทวัญดารา
ถือเป็นผู้บริหารคนรุ่นใหม่ที่ได้เข้ามาสานต่อธุรกิจเทวัญ ดารา รีสอร์ท แอนด์ สปาของครอบครัว สำหรับ อธิวัฒน์ อัศวศิรโยธิน หรืออาร์ตี้
โดย...โชคชัย สีนิลแท้
ถือเป็นผู้บริหารคนรุ่นใหม่ที่ได้เข้ามาสานต่อธุรกิจเทวัญ ดารา รีสอร์ท แอนด์ สปาของครอบครัว สำหรับ อธิวัฒน์ อัศวศิรโยธิน หรืออาร์ตี้ ในตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ซึ่งปัจจุบันดูแลธุรกิจทางด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์โรงแรม 3 แห่ง
เริ่มจากเทวัญ ดารา รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน บนเนื้อที่ 40 ไร่ ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พัฒนาเป็นวิลล่าตากอากาศสไตล์มัลดีฟส์ขนาด 1-5 ห้องนอน จำนวน 120 วิลล่า ซึ่งคุณแม่ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางไปท่องเที่ยวตามหมู่เกาะต่างๆ ได้ก่อสร้างและเปิดให้บริการมานาน 8 ปี
นอกจากนี้ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาโครงการเทวัญ ดารา บีช วิลล่า กุยบุรี จำนวน 100 ห้องพัก บนพื้นที่ 10 ไร่ ตกแต่งห้องพักสไตล์โพลีนีเชียนหรือหมู่เกาะแปซิฟิก โดยเป็นห้องพักที่เป็นอาคารสูง 4 ชั้น และยังได้พัฒนาโรงแรมป่าตอง เฮอร์ริเทจ จำนวน 180 ห้องพัก เป็นอาคารสูง 20 ชั้น อยู่ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ซึ่งเปิดให้บริการมานาน 8 ปี ใกล้เคียงกับโครงการที่หัวหิน
โครงการดังกล่าวจะเน้นต่างชาติเป็นหลัก โดยเฉพาะชาวยุโรป อัตราการเข้าพักประมาณ 90% ที่ผ่านมาได้จดทะเบียนเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ชื่อ M-PAT เนื่องจากภูเก็ตยังเป็นตลาดท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ซึ่งในภาพรวมแล้วธุรกิจโรงแรมนั้นถือว่าค่อนข้างอ่อนไหวง่ายกับเหตุการณ์บ้านเมืองต่างๆ แต่ก็สามารถสร้างรายได้รวมไม่ต่ำกว่าหลัก 100 ล้านบาท/ปี
“เมื่อเรียนจบปริญญาตรี คุณแม่ (กรนันท์ อัศวศิรโยธิน) เริ่มให้มาช่วยดูแลกิจการของครอบครัวตั้งแต่เดือน ก.ค. 2557 เนื่องจากครอบครัวมีภารกิจที่ให้ทำค่อนข้างเยอะ จึงได้เข้ามาบริหารงานทางด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ เรียกได้ว่าต้องมาเป็นหัวหน้า แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะทีมงานสามารถทำงานร่วมกันได้ดี และโดยส่วนตัวไม่ใช่คนที่ทำงานในลักษณะเข้าไปสั่งงานในทุกขั้นตอน แต่จะดูเป็นภาพรวมเป็นสิ่งสำคัญกว่า ซึ่งต้องมีความไว้ใจคนในองค์กรและทีมงาน” อธิวัฒน์ กล่าว
อธิวัฒน์ ขยายความด้วยว่า การทำงานร่วมกันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์อยู่ที่การวางตัว แม้อายุจะยังน้อยแต่ก็อยู่ที่ว่าเลือกที่จะวางตัวเป็นแบบไหน ควบคุมอารมณ์และมีวุฒิภาวะได้ขนาดไหน ถ้ามีคนทำงานไม่ถูกใจจะเก็บอารมณ์และใจเย็นได้หรือเปล่า ถือเป็นการฝึกด้วยฝึกตัวเราเอง คนอาจจะมองว่าการทำงานจะต้องทำงานเล็กๆ ก่อน แต่ในโลกยุคปัจจุบันนั้นมีความกดดันหลายด้านโดยเฉพาะในเรื่องของเวลา ภารกิจที่มีมากมาย จึงต้องอยู่ที่การฝึกของตัวเราเองด้วย
หลังจากเข้ามาบริหารงานกว่า 1 ปีเศษ สิ่งที่เปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดคือสามารถขยายตลาดต่างชาติได้ โดยเพิ่มลูกค้าชาวฮ่องกงจากเดิมที่ยังมีจำนวนน้อย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้เข้าบ้านตากอากาศที่เป็นวิลล่า เนื่องจากคอนโดมิเนียมที่เขาพักในฮ่องกงส่วนใหญ่มีขนาดค่อนข้างเล็ก ในชีวิตเขาไม่มีโอกาสที่จะอยู่บ้านแบบนี้ เมื่อมาท่องเที่ยวเมืองไทย ที่แห่งนี้ถือเป็นสวรรค์เลยก็ว่าได้
หัวใจสำคัญของการทำงานของอธิวัฒน์ ณ เวลานี้คือ ต้องการให้เป็นที่รู้จักในต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะชาวฮ่องกง โดยได้วางแผนว่าในปี 2559 จะไปเดินหน้าทำการตลาดกับร้านอาหารที่ฮ่องกงเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์
สำหรับธุรกิจโรงแรมอย่างเช่นที่หัวหินต้องเข้าใจว่าทั้งปีเข้าพักไม่เต็มอยู่แล้วในวันธรรมดา และมีคนต่างชาติมาทุกวันนั้นก็เป็นไปไม่ได้ หากทำให้เต็มตลอดรายได้ก็เพิ่มขึ้นแต่ก็ต้องดูบนพื้นฐานความเป็นไปได้ด้วย ในปัจจุบันจึงมองโอกาสที่จะขยายธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจครอบครัวเข้ามาเสริมด้วย
อย่างธุรกิจที่มีเจ้าเดิมที่ให้บริการอยู่แล้วแต่ยังให้บริการไม่ดีพอ เราสามารถเข้าไปตอบโจทย์ตรงนั้นได้ อย่างการให้บริการรถแท็กซี่สมัยก่อนนั้นไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากนัก แต่ปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการเรียกแท็กซี่อูเบอร์ หรือแกร็บแท็กซี่เข้ามาแย่งตลาด
อธิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีธุรกิจที่เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น คือ ลอนดรี้ในรูปแบบออนไลน์ คือ สามารถเรียกให้คนมารับเสื้อผ้าเราไปซัก โดยได้ศึกษามานาน 5-6 เดือนแล้วแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
“ผมเป็นคนที่ถ้าไม่ชัวร์ 100% โมเดลธุรกิจประเภทนี้ส่วนใหญ่เริ่มในต่างประเทศหมด คนไทยก็ได้แนวคิดมา ผมจะคิดโมเดลการหารายได้มาก่อน ถ้ามีความเป็นไปได้แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จะทำเองหรือไปจ้างเขาอีกที” อธิวัฒน์ กล่าว
แม้ว่าการทำงานของกลุ่มเทวัญ ดารา จะเป็นสไตล์การบริหารแบบครอบครัว แต่ก็มีข้อดีที่งานกระชับ ตัดสินใจได้รวดเร็ว และไม่มีขั้นตอนที่ตายตัว เรียกว่ามีทั้งความคล่องตัวและรวดเร็ว การมีคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารและมีทีมงานที่พร้อมจะก้าวไปกับองค์กรก็สามารถแข่งขันในธุรกิจได้ไม่แพ้องค์กรขนาดใหญ่ได้