ให้กู้แล้ว8พันล.ซื้อบ้านประชารัฐ
คลังพอใจยอดปล่อยกู้บ้านประชารัฐผ่าน ธอส.-ออมสิน อนุมัติแล้ว กว่า 8,000 ล้านบาท ยันไม่ปรับเงื่อนไขเพิ่ม
คลังพอใจยอดปล่อยกู้บ้านประชารัฐผ่าน ธอส.-ออมสิน อนุมัติแล้ว กว่า 8,000 ล้านบาท ยันไม่ปรับเงื่อนไขเพิ่ม
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวถึงโครงการปล่อยสินเชื่อบ้านประชารัฐว่า ล่าสุดยอดปล่อยกู้ผ่านธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รวมทั้งสองธนาคารอยู่ที่ราว 8,000 ล้านบาท จากเป้าหมายปล่อยกู้ทั้งโครงการที่ 4 หมื่นล้านบาท แยกเป็นธนาคารละ 2 หมื่นล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 2 ปี โดยที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการบ้านประชารัฐจะครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ แต่จะต้องมีราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยืนยันว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนเงื่อนไขการให้กู้ เพราะถือว่ายอดปล่อยกู้และอนุมัติสินเชื่อยังอยู่ในกรอบที่ตั้งไว้ปีละ 1 หมื่นล้านบาท โครงการ 2 ปี มีวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท
สำหรับโครงการบ้านประชารัฐจะให้กู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารห้องชุดกับโครงการที่เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ รวมทั้งเพื่อปลูกสร้างอาคารหรือต่อเติม หรือซ่อมแซมอาคารในที่ดินของตนเอง และให้รวมถึงทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี และทรัพย์สินรอการขายของธนาคารออมสิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์ ดอกเบี้ยคิดอัตราเดียวกันทั้งสองธนาคาร คือ 6 ปีแรก จากระยะเวลากู้เงินไม่เกิน 30 ปี แบ่งเป็น 2 กรณี คือ กู้ไม่เกิน 7 แสนบาท และกู้เพื่อซ่อมแซม ต่อเติม ไม่เกิน 5 แสนบาท ดอกเบี้ยปีแรก 0% ปีที่ 2-3 อัตรา 2% ปีที่ 4-6 อัตรา 5% ปีที่ 7เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว คือ ธอส. เอ็มอาร์อาร์ ลบ 0.75% ธนาคารออมสินคิดอัตราเอ็มอาร์อาร์ ลบ 1.475% สำหรับผู้กู้เกิน 7 แสนบาท แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยปีที่ 1-3 ที่ 3% ปีที่ 4-6 อัตรา 5% หลังจากนั้นจะคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่ธนาคารแต่ละแห่งกำหนด
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ธนาคารมียอดอนุมัติ สินเชื่อในโครงการบ้านประชารัฐแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท โดยวงเงินส่วนที่เหลืออีกกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะทยอยอนุมัติไปจนถึงปี 2560 โดยผู้กู้รายย่อยที่สนใจยังสามารถยื่นคำขอกู้เงินในโครงการต่อไปได้ จนกว่าธนาคารจะอนุมัติได้ครบวงเงินตามโครงการ
นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผลการคัดเลือกผู้ยื่นซองประมูลโครงการบ้านประชารัฐในพื้นที่นำร่อง 6 โครงการนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 2 ส.ค.นี้ โดยกรมธนารักษ์จะแถลงข่าวถึงรายชื่อเอกชนที่ชนะการประมูลในที่ราชพัสดุทั้ง 6 แปลง โดยแปลงที่ จ.เชียงราย มีผู้ยื่นเอกสารเข้ามาแล้ว แต่โครงการยังไม่เรียบร้อย ประกอบกับทำเลอยู่ในพื้นที่ห่างไกล