JP FASHION สตรีทแวร์สุดฮอต
ร้านเจพี แฟชั่น JP FASHION ร้านน้องใหม่บนทำเลชั้น 2 บนศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
ร้านเจพี แฟชั่น JP FASHION ร้านน้องใหม่บนทำเลชั้น 2 บนศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ที่ชูความต่างไปจากตลาดแฟชั่นทั่วไปมาใช้เป็นจุดขายสินค้าในร้าน ที่สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มองหาความแปลกใหม่
อังคณา แซ่ชิน ผู้ร่วมก่อตั้งร้าน JP FASHION กล่าวถึงแนวคิดธุรกิจจากการเห็นสินค้าไอเท็มแฟชั่นแบรนด์ดังต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มสตรีทแวร์ในต่างประเทศ ที่มองแล้วว่าน่าจะมีโอกาสทางธุรกิจ จากนั้นจึงทำการบ้านอย่างหนักเพื่อศึกษาแนวสินค้าดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเทรนด์แฟชั่นที่เกิดขึ้นแล้วนำมาปรับใช้กับสินค้าภายใต้แบรนด์ดังกล่าว ให้อยู่ในรูปของธุรกิจอย่างจริงจัง
สำหรับรูปแบบสินค้า JP FASHION จะเป็นแนวสตรีทแวร์แฟชั่นสวมใส่เดินเล่นในที่ต่างๆ บนท้องถนน หรือฮิปฮอป หากเป็นกลุ่มเสื้อผ้ากางเกง ก็จะเป็นโอเวอร์ไซส์ ขนาดใหญ่กว่าปกติ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสินค้าตกแต่ง (แอกเซสซอรี่) อื่นๆ อาทิ หมวก กระเป๋า เป็นต้น โดยตัวเธอจะเป็นผู้ทำแบบขึ้นมาเองทั้งหมด จากการติดตามเทรนด์แฟชั่นลักษณะนี้จากต่างประเทศสม่ำเสมอ ว่าตอนนี้ใครแต่งตัวกันอย่างไร อย่างศิลปินนักร้องคนดัง จัสติน บีเบอร์ หรือคนอื่นๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับการผลิตสินค้าเพื่อทำตลาดตามแต่ละฤดูกาล (คอลเลกชั่น) ออกมา
พร้อมยกตัวอย่างสินค้าที่ทำตลาดในช่วงนี้จะเข้าสู่ฤดูหนาว เป็น วินเทอร์ คอลเลกชั่น ก็จะเน้นกลุ่มเสื้อสไตล์แจ็กเกต หมวก เป็นต้น สินค้าทุกชิ้นของร้านเป็นการสั่งผลิตจากต่างประเทศเพื่อนำเข้ามาทำตลาดทั้งหมด ด้วยเหตุผล คือ วัสดุในการตัดเย็บสินค้าบางอย่างที่ไม่มีในบ้านเรา อย่างผ้าบางประเภท หรือลวดลาย เป็นต้น ที่ทำให้สินค้าต่างๆ ของ JP FASHION มีความแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ที่แม้ว่าอาจจะเป็นกลุ่มสินค้าแฟชั่นลักษณะเดียวกันก็ตาม
โดยเสริมว่า จากเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวมากขึ้น ถือเป็นเครื่องมือที่ดีมากในการช่วยค้นหาแรงบันดาลใจจากทั่วโลกได้ง่ายๆ อย่างการใช้สื่อสังคมออนไลน์ อินสตาแกรม (ไอจี) ติดตามเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งในฝั่งตะวันตก เอเชีย อย่างฮ่องกง เป็นต้น ว่าในขณะนี้ผู้คนทั่วโลกแต่งตัวกันอย่างไร ซึ่งต้องยอมรับว่าแฟชั่นในต่างประเทศ มักจะล้ำหน้ากว่าของบ้านเราเสมอ
ขณะที่กลุ่มเป้าหมายหลักส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าชาวต่างชาติกว่า 80% อาทิ ดูไบ มาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น และอีก 20% เป็นกลุ่มลูกค้าในประเทศ โดยราคาสินค้าเริ่มต้นตั้งแต่ 890 บาทไปจนถึง 3,200 บาท แม้ว่าจะเป็นราคาเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง แต่ได้การตอบรับดีจากกลุ่มเป้าหมายที่สนใจคุณภาพและแนวแฟชั่นดังกล่าว ซึ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุดมากกว่าและยังตรงกับทำเลของร้านที่วางไว้
นอกจากนี้ ร้านยังให้ความสำคัญด้านการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง (สต๊อก) ตรวจสอบทุก 3 อาทิตย์ เพื่อไม่ให้มีสต๊อกจำนวนมาก แต่ละกลุ่มจะสั่งผลิตเพียง 3 ชิ้น/แบบเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถหาซื้อสินค้าแบบนี้ได้ที่ไหนอีก พร้อมปรับคอลเลกชั่นใหม่ทุก 1 เดือน เพื่อให้สินค้าต่างๆ ภายในร้านมีความเคลื่อนไหวอยู่เสมอด้วย
ขณะเดียวกัน แบรนด์ JP FASHION ยังมีช่องทางตลาดออนไลน์ผ่านทั้งเฟซบุ๊กและไอจี อย่าง jp_style_shop2 ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ชื่อบัญชี (แอ็กเคานต์) ไอจี ที่แบ่งการทำตลาดสินค้าแต่ละหมวดหมู่ออกไป โดยปัจจุบันมียอดขายจากช่องทางปกติสัดส่วน 80% และช่องทางออนไลน์ 20%
พร้อมวางเป้าหมายในระยะใกล้จะขยายการทำธุรกิจไปสู่รูปแบบค้าส่ง รวมถึงขยายร้านสาขาใหม่เพิ่มได้ในอนาคต หากมีทำเลที่เหมาะสมและตรงกับกลุ่มเป้าหมาย