ทอง จอดรอ ข่าว

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรณยศิริ ประนานกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก

ทองคำปิดปรับตัวลดต่ำลงในช่วงสุดสัปดาห์จากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาดีกว่าที่คาดหมายอยู่หลายตัว ที่ส่งผลให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้น และหนุนนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เกิดขึ้นก่อนสิ้นสุดปี ขณะที่ถ้อยแถลงการณ์ของ เจเน็ต เยลเลน เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้หยิบยกทฤษฎีการวางแผนนโยบายการเงินและไม่แสดงความเห็นใดเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้ให้ใจความใดที่เกี่ยวข้องกับการปรับอัตราดอกเบี้ยที่จะมีขึ้นก่อนสิ้นสุดปีหรือไม่

ทั้งนี้ เยลเลนได้กล่าวเกี่ยวกับเงินภาวะเฟ้อว่าสามารถเติบโตเป็นที่น่าพอใจและอาจจะแตะตัวที่ระดับเป้าหมายที่ 2% จากผลสำรวจสถาบันการเงินหลายแห่ง พบว่า มีโอกาสเกินกว่า 50% ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด จะมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือน ธ.ค.ก่อนสิ้นสุดปี

วิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1,250-1,262 เหรียญสหรัฐ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่ค่อนข้างทรงตัวมีทั้งดีและไม่ดีสลับกัน ขณะที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐยังคงทรงตัวในระดับสูงที่ระดับ 98.09 จุด และมีการเข้าซื้อบ้างเล็กน้อยจาก SPDR กองทุนทองคำระดับโลก เข้าซื้อทองคำในช่วงวันศุกร์สุดสัปดาห์อีก 3.86 ตัน สู่ระดับ 965.43 ตัน โดยทางเทคนิคของราคาทองคำระยะสั้นอยู่ในช่วงของการปรับฐานหลังจากที่มีการปรับตัวลดลงมาจากระดับ 1,300 เหรียญสหรัฐ

แนวโน้มในระยะกลางและระยะยาวยังคงเป็นทิศทางขาลง โดยที่ราคาทองคำยังคงไม่สามารถยืนขึ้นไปเหนือระดับ 1,280 เหรียญสหรัฐได้เลย จากภาพรวมแล้วราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลดลงก่อนในระยะสั้น โดยแนวรับถัดไปทองคำจะลงไปอยู่ที่ระดับ 1,240 และ 1,230 เหรียญสหรัฐตามลำดับ แนวต้านด้านบนอยู่บริเวณ 1,270 เหรียญสหรัฐ ราคาทองคำของไทยจะมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 20,900 บาท แนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 21,250 บาท โดยทองไทยเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากที่ค่าเงินบาทมีความผันผวนอย่างมาก ยังคงใช้กลยุทธ์การลงทุนเช่นเดียวกันกับการลงทุนของต่างประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน

ยังคงใช้กลยุทธ์ตามแนวโน้มขาลง แนะนำให้ลดสถานะ Long หรือวาง Stop Loss ไว้เพื่อลดความเสี่ยงในทิศทางขาลง

นักลงทุนไทยยังไม่คุ้นเคยกับการเล่นขาลงเท่าไหร่นัก

การปรับกลยุทธ์ให้เป็นทิศทางแนวโน้มขาลงหรือปรับกลยุทธ์ตามแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักลงทุนทองคำซึ่งต้องเข้าใจว่าต่างกันไปกับการลงทุนหุ้น เนื่องจากการลงทุนส่วนใหญ่ของการลงทุนในหุ้นปรับตัวทรงแล้วเด้งขึ้น เพราะหุ้นมักจะอิงกับผลประกอบการเป็นหลัก ตราบใดที่บริษัทมีผลประกอบการที่ดี การปรับตัวก็จะสามารถดีดกลับขึ้นมาได้ ในขณะที่ทองคำนั้นจะขึ้นกับสภาพตลาดที่มากระทบ สภาพข่าวต่างๆ และตัวเลขเศรษฐิจต่างๆ ที่มากระทบกับค่าเงินเหรียญสหรัฐ

ดังนั้น จึงจะเห็นได้ว่าหลายครั้งที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐเองก็จะมีการแกว่งตัวขึ้นลงรวดเร็วและรุนแรง ทองคำเองในช่วงระยะหลังจึงเหมาะสำหรับการลงทุนในระยะสั้นและเหมาะสำหรับนักลงทุนที่เข้าใจปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันเท่านั้น การลงทุนที่ยังฝืนแนวโน้มหรือการที่จะเฉลี่ยซื้อเมื่อท่านนักลงทุนประสบภาวะขาดทุนจึงไม่ค่อยถูกต้องนักในทฤษฎีการลงทุน และจะต้องมีนักลงทุนบางส่วนที่จะต้องคอยถูกเติม Margin อยู่เสมอ ดังนั้นความเข้าใจในกลยุทธ์การลงทุนและการบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสมในสภาพตลาดจึงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้สำหรับนักลงทุนในทองคำ

 MTS Gold แม่ทองสุกผู้นำการลงทุนในทองคำอย่างแท้จริงที่อยู่เคียงคู่กับนักลงทุนไทยมาตลอดกว่า 20 ปี มีส่วนในการให้ความรู้คู่การลงทุนมาโดยตลอดผ่านทาง website : www.mtsgold.co.th และจำเป็นอย่างยิ่งผู้ลงทุนจะต้องอ่านบทวิเคราะห์ซึ่งจะช่วยพัฒนาความสามารถของนักลงทุนให้ดีขึ้น สนใจติดต่อเปิดบัญชีติดต่อ Call Center 02-770-7777