‘หาดใหญ่’สู้ริงกิตอ่อน รุกการตลาดลดราคา
วิกฤตค่าเงินริงกิตมาเลเซียซึ่งร่วงต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี อัตราแลกเปลี่ยนจากริงกิตละ 10 บาท เหลืองริงกิตละ 7 บาท
โดย...อัสวิน ภฆวรรณ
วิกฤตค่าเงินริงกิตมาเลเซียซึ่งร่วงต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี อัตราแลกเปลี่ยนจากริงกิตละ 10 บาท เหลืองริงกิตละ 7 บาท ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชายแดน ชาวมาเลเซียเดินทางท่องเที่ยวยังประเทศไทยน้อยลง และมีกำลังซื้อลดลง ส่งผลให้ธุรกิจแนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย เช่น จ.สงขลา นราธิวาส ยะลา และสตูล มีรายได้ที่หดตัวลง ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว
โสภณ จะยะสกูล ผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี สงขลา อดีตประธานชมรมสถาบันการเงินหาดใหญ่ กล่าวว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวหาดใหญ่ จ.สงขลา มีการผูกติดอยู่กับประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ เมื่อริงกิตอ่อนค่าลง ก็ย่อมมีผลกระทบ เพราะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมีกำลังซื้อน้อยลง
ภาวะที่ค่าเงินลด ทำให้ชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และสถานบริการ ใช้กลยุทธ์ลดราคา เพื่อให้ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวมาเลเซียยังคงเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนก่อนหน้านี้ อาทิ ห้างสรรพสินค้าจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า 70% โรงแรมนอกจากลดราคาห้องพักแล้วยังแถมบุฟเฟ่ต์อีก 150 บาท ส่วนร้านอาหารและภัตตาคารก็ลดราคาโต๊ะทัวร์จากเดิมโต๊ะนั่ง 10 คน ราคา 2,200 บาท เหลือ 1,800 บาท
ผลจากการปรับกลยุทธ์ราคา นอกจากดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่สุดของชายแดนภาคใต้ให้กลับเข้ามาได้แล้ว ปรากฏว่ายอดรายจ่ายและรายได้ก็ไม่ตกลง ซ้ำยังเพิ่มขึ้นอีกจากปัจจัยด้านราคาที่ลดลง ทำให้มีการจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น
ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวหาดใหญ่รายหนึ่ง เห็นว่า เงินริงกิตมาเลเซียอ่อนค่าก็ยังเป็นผลดีต่อเมืองแนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย เพราะเป็นพื้นที่รอยต่อที่ใกล้ ราคาประหยัด ค่าใช้จ่ายทางด้านการเดินทางต่ำกว่า ราคาสินค้า อาหาร ค่าห้องพัก โดยใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ราคายังถูกและต่ำกว่าในพื้นที่การท่องเที่ยวอื่นๆ มาก
ขณะที่ วิทยา แซ่ลิ่ม มัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสงขลา ซึ่งคลุกคลีวงการท่องเที่ยวไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ มากว่า 30 ปี มองว่า ยิ่งเงินริงกิตอ่อนค่า ชาวมาเลเซียก็จะมีทางเลือกการท่องเที่ยวน้อยลง จากที่เคยเดินทางไป สิงคโปร์ ไต้หวัน จีน ก็จะกลับเข้ามายังหาดใหญ่เพิ่มขึ้น เพราะค่าใช้่จ่ายต่ำกว่า
“การเดินทางไปท่องเที่ยว สิงคโปร์ ไต้หวัน จีน จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า ดังนั้นหาดใหญ่จึงน่าจะได้รับประโยชน์ ที่นักท่องเที่ยวมาเลเซียกลุ่มนี้จะเลือกเข้ามายังหาดใหญ่มากขึ้น เพราะถึงแม้จะเป็นการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่หาดใหญ่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน ภาคเหนือ และกรุงเทพฯ”
ความคาดหมายของอดีตผู้ก่อตั้งสมาคมมัคคุเทศก์สงขลาน่าจะเป็นไปดังว่า จะเห็นได้จากปัจจุบันที่รถไฟทางคู่ของมาเลเซีย จากกรุงกัวลาลัมเปอร์มาถึงปาดังเบซาร์ รัฐเปอร์ลิส มาเลเซีย รอยต่อปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ทุก 1 ชั่วโมง/เที่ยว ซึ่งมีคนใช้บริการมาก
ขณะที่การเดินทางผ่านมาทางท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ก็เพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าโดยสารสายการบินโลว์คอสต์ที่ราคาใกล้เคียงกับค่าโดยสารรถไฟ
สัญญาณเหล่านี้น่าจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวหาดใหญ่และชายแดนภาคใต้ ซึ่งผลจากค่าเงินริงกิตมาเลเซียกลับกลายมาเป็นผลดี