posttoday

TSEจ่อเข้าSETภายใน2ปี

13 พฤษภาคม 2560

ขอเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป544ล้านหุ้น รองรับแผนขยายธุรกิจอนาคต

ขอเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป544ล้านหุ้น รองรับแผนขยายธุรกิจอนาคต

โพสต์ทูเดย์ - TSE เตรียมย้ายขึ้น SET 1-2 ปี พร้อมเพิ่มทุน RO และ PP รวม 544 ล้านหุ้น รับแผนงานในอนาคต

น.ส.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานกรรมการบริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะย้ายไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายใน 1-2 ปีนี้ ปัจจุบันนี้มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) มากกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1 หมื่นล้านบาท และอยู่ระหว่างการทำผลการดำเนินงานให้ดีและพร้อมที่จะเติบโตมากขึ้น

ทั้งนี้ 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทเน้นแนะนำตัวหางานและหาตลาดเพื่อรองรับงานในอนาคต เมื่อบริษัทพร้อมที่จะเติบโตขึ้นต้องก้าวไปข้างหน้า เพราะบริษัทเริ่มเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุดก็มีกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง เข้ามาถือหุ้นมากกว่า 5 % ขณะที่การไปนำเสนอข้อมูลที่สิงคโปร์มีกองทุนสนใจ แต่กองทุนต่างชาติติดนโยบายที่ไม่สามารถเข้ามาลงทุนบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัมมีมติอนุมัติเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป จำนวน 544.5 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 30% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งหมด คาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ราว 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนในโครงการใหม่ โดยจะเพิ่มทุน 2 รูปแบบ คือ การเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) 20% หรือ 363 ล้านหุ้น และอีก 10% หรือ 181 ล้านหุ้น เพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ซึ่ง
จะขออนุมัติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 14 มิ.ย.นี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำรองสำหรับการเข้าลงทุนโครงการในอนาคตต่อไป

“การเพิ่มทุนไว้เป็นการขอมติไว้เพื่อรองรับกับโครงการอนาคตที่บริษัทจะมีการลงทุนต่อเนื่องทั้งในญี่ปุ่นและในประเทศ โดยการขอแต่ละครั้งจะให้เพียงพอต่อการขยายกิจการเท่านั้น และรักษาระดับอัตราหนี้สินต่อทุน(ดี/อี) ให้อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ” น.ส.แคทลีน กล่าว

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิต 40-50 เมกะวัตต์ ในญี่ปุ่นอีก 1-2 โครงการ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 3 นี้ เพราะโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นยังมีการเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะโครงการที่มีอัตราขายไฟอยู่ที่ 36 เยน/หน่วย ที่ยังเหลืออีกราว 200-300 เมกะวัตต์

สำหรับปีนี้ตั้งเป้ามีกำลังการผลิตจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ทั้งหมด 120 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตที่จ่ายไฟแล้ว 112 เมกะวัตต์ ผลประกอบการไตรมาสแรกมีกำไรสุทธิ 130 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 129 ล้านบาท