‘ถนนสู้ศึก’ ตลาดต้องชมแห่งอ่าวมะนาว

ไชยวัฒน์ สาดแย้ม

ถนนสู้ศึก อาจไม่เป็นที่รู้จักกันนัก แต่หากพูดถึงอ่าวมะนาว อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลายคนคงรู้จักกันดี ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยว และพื้นที่ประวัติศาสตร์ การต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นของกองบิน 5 ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพาเมื่อกว่า 70 ปีก่อน

วันนี้ ถนนสู้ศึก อ่าวมะนาว ได้รับการคัดเลือกเป็นถนนสายวัฒนธรรม และตลาดต้องชมอีกแห่งหนึ่งของ จ.ประจวบคีรีขันธ์

ทวี นริสศิริกุล ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ บอกว่า ถนนสู้ศึก ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนั้น ต้องนับได้ว่าเป็นถนนสายวัฒนธรรมที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง จนได้รับการคัดเลือกจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นถนนสายวัฒนธรรม 1 ใน 11 สาย จาก 11 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนเชื่อมโยงมิติด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจระดับฐานราก

"ถนนสู้ศึกแห่งนี้นั้น นับเป็นถนนแห่งประวัติศาสตร์ที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทหารอากาศ ตำรวจ และชาวประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันสู้รบกับกองทัพญี่ปุ่นที่ยกพลขึ้นบกที่อ่าวมะนาว กองบิน 5 เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ ควรค่าแก่การเผยแพร่ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ รวมถึงการศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวชุมชนหัวบ้าน บนเส้นทาง 800 เมตร บนถนนสายนี้ยังคงมีบ้านเก่าโบราณอายุนับร้อยปีหลงเหลือให้เห็นอยู่หลายหลัง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวจะได้มาศึกษาเรียนรู้จากเจ้าของบ้านที่พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส พร้อมๆ กับการลิ้มลองรสชาติอาหารที่อร่อยขึ้นชื่อของคนในท้องถิ่น" ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เล่าถึงประวัติของถนนสู้ศึก

ด้วยเหตุผลดังกล่าว สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เล็งเห็นว่า ถนนสู้ศึกเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งประชาชนมีความเข้มแข็ง จึงสนับสนุนการจัดกิจกรรมถนนสายท่องเที่ยววิถีไทย ในรูปแบบของตลาดถนนคนเดินขึ้นมาในทุกวันเสาร์และอาทิตย์แรกของทุกเดือน ส่วนวันธรรมดาเดินชม หรือเช่าจักรยานปั่นชมความงามบ้านเก่า และทัศนียภาพเมืองสามอ่าวได้

นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงเดินไปเที่ยวชมได้ เช่น ศาลหลักเมืองประจวบฯ ที่สวยงาม เขาช่องกระจก สะพานสราญวิถีกลางอ่าวประจวบ อ่าวมะนาว กองบิน 5 กองทัพอากาศ วันเดียวก็เที่ยวได้ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างกระแสการพัฒนาชุมชนยั่งยืนด้วยมิติทางวัฒนธรรม ให้ชุมชนท้องถิ่นผู้เป็นเจ้าของพื้นที่เกิดความตื่นตัวในการมีส่วนร่วมในการจัดทรัพยากรทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาดั้งเดิม และเกิดจิตสำนึกและมีความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นของตน

อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมรายได้และธุรกิจท้องถิ่นให้เพิ่มขึ้น ด้วยการเปิดพื้นที่ทางวัฒนธรรม วิถีท้องถิ่น เพื่อให้เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตของชุมชน ให้เป็นเมืองที่มีถนน "เดินได้" และพัฒนาต่อให้เป็นเมืองที่เดินดีเพื่อสุขภาพในบริบทแบบไทยๆ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้เกิดพื้นที่ทางวัฒนธรรมให้แก่ชุมชนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่ชอบชมวิถีชีวิตท้องถิ่น สามารถเดินทางไปเที่ยวชมกันได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และเชื่อว่าถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึกจะคึกคักจากมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นที่บ่งถึงความเป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณีของชุมชน

บ้านเรือนประชาชน 2 ข้างทางถนนสู้ศึก ได้มีการจัดแสดงสิ่งของเก่าล้ำค่าที่หาดูได้ยาก รวมถึงภาพถ่ายบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาถึงวัฒนธรรมประเพณีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และเรื่องราววีรกรรมสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ความเป็นมาของชื่อถนนสายสู้ศึกแห่งนี้ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชมบ้านเก่า เล่าประวัติศาสตร์ของถนนสายวัฒนธรรมถนนสู้ศึก ได้ศึกษาเรียนรู้เล็งเห็นถึงคุณค่าวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตของชาวชุมชนหัวบ้าน และชาวประจวบฯ

เพื่อปลุกกระแสการพัฒนาชุมชนบนรากฐานภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของชุมชนเสริมสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนได้ร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟูและธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ให้มีความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมในท้องถิ่น และวัฒนธรรมไทย เพื่อเป็นการเสริมสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดทรัพยากรและภูมิปัญญาของชุมชนให้น่าสนใจยิ่งขึ้น

อิทธิพงศ์ คุณากรบดินทร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า ตลาดต้องชมบนถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชน สอดรับกับวิถีชุมชนและวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น สร้างแรงจูงใจสำหรับนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อของฝากของที่ระลึก อย่าง ผลิตภัณฑ์ใบตาล มะกรูดหอมใบเตย สำหรับแขวนบูชาพระแขวนในรถ รวมถึงอาหารพื้นบ้าน ขนมไทยหายาก ได้ในราคาย่อมเยา และยังมีการแสดงของเก่าหายาก สถาปัตยกรรมบ้านสมัยสงครามโลก n