posttoday

ราชสกุลในพระบรมราชจักรีวงศ์ (29)

18 สิงหาคม 2560

วิมลพรรณ ปีตธวัชชัยการโสกันต์นั้น ในหนังสือจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี พร้อมด้วยพระราชวิจารณ์ของรัชกาลที่ 5 ยังมีกล่าวถึงพระราชพิธีในเรื่องนี้ของสมเด็จเจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี ความว่า

วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย

การโสกันต์นั้น ในหนังสือจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี พร้อมด้วยพระราชวิจารณ์ของรัชกาลที่ 5 ยังมีกล่าวถึงพระราชพิธีในเรื่องนี้ของสมเด็จเจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี ความว่า

"ณ เดือนหก ปีเถาะ นพศก ตั้งเขาไกรลาสแห่โสกันต์เจ้าฟ้ากุณฑล ทรงเครื่องต้นประดับพระองค์ทรงพระมหามงกุฎ สมมุติวงศ์อย่างเทพอัปสร สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงพระอัยกาจูงพระกรเสด็จขึ้นยอดเขาไกรลาส กรมขุนอิศรานุรักษ์เป็นพระอิศวร ทรงพระมหากฐินทรงประดับ (หรือทรงประพาส) เครื่องต้นเป็นพระอิศวรประสาทพร สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงพระอัยกา จูงพระกรขึ้นส่งถึงยอดเขา พระอิศวรรดน้ำสังข์ทักษิณาวัฏ แล้วปราสาทพระพร เจ้าบุตรแก้วรับพระกรลงจากยานุมาศขึ้นบนเกยพระมหาปราสาทฯ"

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชวิจารณ์จดหมายเหตุดังกล่าวไว้ว่า

"โสกันต์เจ้าฟ้ากุณฑลนี้ คลาดปีกันอยู่กับพงศาวดารปีหนึ่ง รายการที่กล่าวไว้ในพงศาวดารเลื่อนลอยมาก ดูเหมือนแลดูตัวอย่างใหม่ๆ กล่าวประจบให้เป็นเก่า ที่จนอั้นก็อั้นทีเดียว เช่น ทำเขาไกรลาสที่ไหนไม่รู้ ชี้แผนที่วังไม่ถูกว่าไปทรงเสลี่ยงทางประตูท้ายที่ทรงบาตร ที่ชาลาพระมหาปราสาทข้างในไปที่สระอโนดาต ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน" ในพงศาวดารไม่ได้กล่าวว่า ใครจูงทีเดียว ในพงศาวดารว่าถึงกรมขุนอิศรานุรักษ์แต่งพระองค์ว่า ทรงชฎาเดินหน ทรงฉลองพระองค์ครุยเห็นจะเป็นกรมสมเด็จบำราบปรปักษ์ เมื่อครั้นโกนจุกลูกหญิงศรีวิไลยแต่เชื่อว่าคงจะทรงเครื่องต้นจริงตามที่กล่าวไว้ในหนังสือนี้ เพราะมีตัวอย่างเมื่อเครื่องต้นทำแล้ว เสร็จพระราชทานให้เจ้าฟ้ากรมขุนเสนา นุรักษ์ทรง เมื่อแห่ทรงพระผนวชเป็นคราวแรก เพราะพระองค์ของท่านไม่ได้ทอดพระเนตรเห็น อยากทอดพระเนตรกรมขุนเสนานุรักษ์ และกรมขุนอิศรานุรักษ์นี้ว่างามนักทั้งสองพระองค์ เห็นจะโปรดให้ทรงทอดพระเนตร ยังมีตัวอย่างต่อมาอีกในรัชกาลที่ 3 โปรดให้พระองค์เจ้าลักขณานุคุณทรงเมื่อแห่ทรงผนวชรัชกาลที่ 3 นี้ ถ้าไม่มีตัวอย่างท่านคงไม่ทรงริขึ้น ในชั้นต้นที่จะสอบสวนเรื่องโสกันต์เจ้าฟ้ากุณฑลนี้ ได้ดูจดหมายเหตุเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ซึ่งกรมหลวงดำรงชำระไว้อื่นๆ ก็ได้ความชัดเจน แต่ข้อที่เขาไกรลาสตั้งแห่งใดไม่ปรากฏ กับมีข้อความที่จะแปลว่ากระไรไม่ได้คือ ณ วันศุกร์ เดือน 4 แรม 3 ค่ำ เพลาเช้า แห่มาโสกันต์ที่พระมหาปราสาท แล้วเสด็จกลับทางประตูท้ายที่ทรงบาตรที่ชาลาพระมหาปราสาทข้างในอีกข้อหนึ่ง ซึ่งกล่าวว่า เจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์แต่งพระองค์ ทรงฉลองพระองค์ครุย ทรงชฎาเดินหน ข้อความที่คัดลงในจดหมายเหตุนี้ ปรากฏว่าได้คัดในร่างหมายซึ่งยังมีอยู่โดยมาก เว้นไว้แต่ความ 2 ข้อที่กล่าวมานี้ ผู้อ่านหมายไม่เข้าใจหรือปากไว้เอาการใหม่ปนการเก่าก็จะเป็นได้ ในร่างหมายนี้เองมีตัวแก้ไขจากลายมือเดิมหลายแห่ง กลัวจะต้องตำรากระทรวงวัง ถ้าจะมีการอะไร เอาร่างกฎหมายเก่าออกมาตกแทรกวงกา แล้วให้เสมียนคัดขึ้นเป็นหมายใหม่ จึงเลยเทอะไปก็มีการที่จะอ่านต้องเข้าใจอ่าน ในที่นี้จะเก็บข้อความจากหมายเก่าเอาแต่สิ่งที่สำคัญควรสังเกต

หมายฉบับนี้ "เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช (รอด ต้นสกุลบุณยรัตพันธุ์) รับสั่งใส่เกล้าฯ กำหนดงานสวดมนต์ ณ วัน เดือน 4 ขึ้น 15 ค่ำ แรม 1 ค่ำ 2 ค่ำ ปีมะโรง สัมฤทธิศก เพลาบ่าย 2 โมง 6 บาท พระสงฆ์ 50 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ณ วันศุกร์ เดือน 4 แรม 3 ค่ำ พระฤกษ์จรดพระกรรบิดกรรไกร ณ วัน เดือน 4 แรม 3 ค่ำ 4 ค่ำ 5 ค่ำ สมโภชเวียนเทียนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท 3 วัน"

เขาไกรลาสพิเคราะห์ดู ได้ความจากวางริ้ว เวลาถึงพระมหาปราสาทและเวลากลับจากพระมหาปราสาท ว่าตั้งที่เก๋งกรงนก คือใกล้ไปข้างพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย กระบวนแห่ก็ตามอัตรา คือคู่แห่เด็ก 80-84 ทั้งต้นเชือกปลายเชือก แตรใน 9 เครื่อง 21 พระแสง 5 บัณเฑาะว์ 2 พราหมณ์โปรยข้าว 2 ตรอกเคียงพระราชทาน 12 อินทร์พรหม 16 หามพระราชยาน 10 เครื่องหลัง 8 พระแสง 2 รวมกระบวนใน 175 คน กระบวนนอกคู่แห่ผู้ใหญ่ 80 แตร 42 กลองชนะ 40 ในหมายมีแต่กระบวนข้างหน้า กำหนดการตามรายทาง เช่น โสกันต์ระยะหลังๆ การที่วางกระบวนเมื่อถึงเกยก็อย่างชั้นหลังๆ แต่นางเชิญเครื่องเชิญพระแสงหลังให้เลี้ยวขึ้นอัฒจันทร์ปราสาท นางสระเข้าประตูพรหม

มีกำหนดผู้ตรวจตรา ให้เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช เข้ามาจัดกระบวนในพระราชวังให้เจ้าพระยายมราชจัดกระบวนที่ประตูราชสำราญ เจ้าพระยามหาเสนาจัดที่ประตูวิเศษชัยศรีข้างในเจ้าพระยา ธรรมา จัดที่เกยพระมหาปราสาท เมื่อกระบวนเดินพ้นมาแล้ว จึงให้เจ้าพระยาทั้งสามเดินตามกระบวนมา

วันสรงที่เขาไกรลาส ให้เจ้าพระยาศรีธรรมา ธิราช จัดการที่มุมตะวันออกเฉียงใต้ เจ้าพระยามหาเสนา ตะวันออกเฉียงเหนือ เจ้าพระยา ธรรมา ตะวันตกเฉียงใต้ เจ้าพระยายมราช ตะวันตกเฉียงเหนือ พอโสกันต์เสร็จแล้ว ถวายผ้าสบงแล้ว กลับเข้าไปที่ท้ายพระมหาปราสาท ทรงตักบาตรที่ชาลาพระมหาปราสาท ตักบาตรนี้ต้องเข้าใจว่า ไม่ใช่พระเข้าไปรับ ตักข้าวลงในบาตรสำหรับไปเลี้ยงพระซึ่งกำลังสวดถวายพระพรอยู่ ครั้นทรงบาตรเสร็จแล้วเสด็จกลับออกมาทางที่เสด็จเข้าไปนั้น จึงลงมาทรง พระเสลี่ยงน้อยไปสรงที่สระอโนดาต

มีแปลกอย่างหนึ่ง ดูเหมือนจำไม่ได้แต่งพระองค์ในมณฑป จะลงมาแต่งที่นักแร้ข้างหนึ่งที่เรียกว่า มุมตะวันตกข้างเหนือ แต่ข้าพเจ้าไม่เชื่อข้อนี้ เห็นจะแดดร้อนนัก และตัวหนังสือที่เขียนลงไว้เป็นตัวเล็กๆ ใครจะเขียนเพิ่มเติมลงไปก็ไม่ทราบ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรแปลกประหลาดอะไรจากโสกันต์ชั้นหลังๆ

เจ้าบุตรแก้วที่สำหรับรับพระกรนี้ ได้เห็นชื่อในบัญชี เป็นผู้เลี้ยงพระฉันจุดธูป 1 ในจำนวนมากด้วยกันนั้น พระที่ฉันสำหรับเจ้าบุตรแก้ว เป็นพระสมุห์วัดบางลำพู ฉันไก่ต้ม 3 ตัว ไก่จาน 1 นมโค 1 โถ ที่จะเป็นลูกสาวเจ้ากรุงศรีสัตนาคนะหุตเวียงจันทน์ เมื่อแผ่นดินกรุงธนรับพระกรในที่นี้คือ เวลาไปทรงฟังสวด ไม่ใช่รับที่เขาไกรลาส n