ฟิลิปปินส์ มีมากกว่าที่รู้ มีมากกว่าที่เห็น และ เป็น อยู่ คือ
เมื่อพูดถึงประเทศฟิลิปปินส์ เชื่อแน่ว่า ข้อมูลรับรู้คุ้นเคยที่ลอยขึ้นมา
เมื่อพูดถึงประเทศฟิลิปปินส์ เชื่อแน่ว่า ข้อมูลรับรู้คุ้นเคยที่ลอยขึ้นมาก็คือ "ประเทศหมู่เกาะที่คนส่วนใหญ่พูดภาษาตากาล็อก" "ประชากรกว่า 80% เป็นโรมันคาทอลิก" "มีรถเมล์สองแถวคันยาวๆ เป็นเจ้าถนน เรียกว่า จี๊ปนี่" "เป็นประเทศที่มีชุมชนแออัดใหญ่ที่สุดในอาเซียน" "นักท่องเที่ยวสามารถจ่ายเงินเข้าไปดูสลัมทัวร์" "ผู้นำประเทศคนปัจจุบันมีความแข็งกร้าว กล้าต่อกรกับยักษ์ใหญ่ อย่างสหรัฐอเมริกา" และ "เพิ่งมีนโยบายกวาดล้างยาเสพติดครั้งใหญ่" จริงหรือ แค่นี้จริงหรือ เรารู้จักประเทศฟิลิปปินส์กันแค่นี้จริงๆ หรือ?
เพื่อให้ได้คำตอบแน่ชัด ทั้งให้เรารู้จักประเทศนี้มากยิ่งขึ้น ทีมงานโลก 360 องศา จึงได้ไปคุยกับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นพื้นฐานที่ผู้คนให้ความสนใจเกี่ยวกับประเทศนี้ นั่นก็คือเรื่องของความปลอดภัยนั่นเอง
คุณขานขนิษฐ์ อัมพุประภา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำกรุงมะนิลา ได้เล่าว่า "ก่อนจะมาที่นี่ก็รู้สึกคลางแคลงใจเหมือนคนไทยทั่วไปว่า เฮ้ย ประเทศนี้มันต้องมียามมายืนถือปืนอยู่หน้าธนาคารด้วยเหรอ แต่พอเรามาอยู่จริงๆ แล้วก็รู้สึกว่า ประเทศนี้ก็เหมือนประเทศอื่นทั่วโลก ที่มีย่านของความเจริญ ย่านของความไม่เจริญ ย่านที่ปลอดภัย และย่านที่ไม่ปลอดภัย คือถ้าจะเปรียบเทียบฟิลิปปินส์กับเมืองไทย ตอนเมืองไทยมีประท้วง เราก็ยังใช้ชีวิตปกติ เราก็ออกมาใช้ชีวิตปกติ แต่เราก็เลือกที่จะหลีกเลี่ยงที่ประท้วงกัน เพื่อความปลอดภัยของเรา หรืออย่างเหตุการณ์ความไม่สงบก็เกิดขึ้น บางส่วนของประเทศไทยเท่านั้น คือทางภาคใต้ก็จะมีบางส่วนที่ไม่สงบ อย่างตอนที่มะนิลาเกิดเหตุการณ์ เผากาสิโน เป็นเหตุการณ์ใหญ่มากครั้งหนึ่ง แต่กาสิโนมันเป็นเพียงจุดเล็กๆ ของเมืองมะนิลา เราก็เลือกที่จะไม่ไปอยู่ตรงนั้น" ดังนั้น ฟิลิปปินส์ก็ไม่ได้อันตรายไปทั้งหมด เป็นเหมือนเมืองอื่นๆ ทั่วโลก ที่มีส่วนที่อันตรายและส่วนที่ไม่อันตราย ทุกคนที่จะใช้ชีวิต ก็ต้องเฝ้าระวังตัวเองเช่นกัน
ยังมีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจกันไปว่าชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่เป็นคนจน แล้วก็เป็นแรงงานที่ไปขายแรงงานในต่างประเทศ แต่ถ้าหากเราไปทำความรู้จักผู้คนในประเทศนี้ให้มากยิ่งขึ้น แบบให้ครบทั้ง 360 องศา ก็จะพบว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์นั้นขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจของที่นี่ดีขึ้น มีอยู่หลายปัจจัย เช่น จากการที่มีประชากรมาก และพูดภาษาอังกฤษได้ จึงออกไปทำงานต่างประเทศแล้วส่งเงินกลับมาเข้าประเทศ ซึ่งนอกจากจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้วยังถือเป็นรายได้หลักของประเทศอีกด้วย
นอกจากนั้น ยังมีรายได้หลักสำคัญมาจากธุรกิจ Business Processing Outsourcing เรียกย่อๆ ว่า BPO หรือ "การบริการทำกระบวนการธุรกิจ" ของหลายๆ บริษัททั่วโลกที่ใช้การสื่อสารหลักด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งทุกคนพูดได้หมด ไม่ว่าจะเป็นช่างไม้ ช่างไฟ ก็สามารถพูดได้แบบลึก เพราะฉะนั้น BPO จึงถูกย้ายฐานมาอยู่ฟิลิปปินส์แทนอินเดียและมาเลเซียที่เคยทำมาก่อน ซึ่งธุรกิจนี้ทำให้คนจนรวยขึ้น เพราะคนทำงานในธุรกิจ BPO จะได้รับเงินเดือนเยอะกว่างานปกติ คนก็จะเริ่มมีเงินมากขึ้น เป็นสาเหตุทำให้เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ขยายตัวขึ้น อีกเช่นกัน เพราะมีกิจกรรมการจับจ่ายใช้สอยเกิดขึ้น ระบบการจ่ายเงินเดือนของที่นี่ จะจ่ายทุกๆ 15 วัน คนจนเริ่มมีงาน มีรายได้มากขึ้น ส่งผลให้ชนชั้นกลางมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น และปัจจัยที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งมาจากธุรกิจท่องเที่ยวที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
ถ้ามองย้อนกลับไปที่ประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ บางทีก็จะรู้สึกว่าฟิลิปปินส์ค่อนข้างอาภัพเหมือนกัน เพราะว่าทุกครั้งที่มีต่างชาติเข้ามา ก็มาด้วยวัตถุประสงค์ทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพื่ออาณานิคม ก็มาด้วยเหตุผลทางด้านสงคราม แล้วพอวันเวลาผ่านไป ชาติต่างๆ เหล่านั้นออกไป สิ่งที่เหลือไว้คือร่องรอยของอารยธรรมบางอย่าง สถาปัตยกรรม พร้อมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ แต่จากสิ่งต่างๆ ที่หลงเหลือเหล่านั้น นั่นเองทำให้หลายๆ เมืองเต็มไปด้วยศิลปะ โดยเฉพาะภาพเขียนและงานกราฟิตี้ขนาดใหญ่ บนผนังและกำแพงที่กระจายอยู่ทั่วเมือง กลายเป็นสีสันดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกันในแต่ละวันไม่ขาดสาย
หากถามต่อไปว่าแล้วคนรวยของฟิลิปปินส์นั้นรวยขนาดไหน? คุณขานขนิษฐ์ ตอบว่า "คนรวยก็รวยล้นฟ้า เพราะถ้าเขามีกิจการหนึ่งแล้วเขาจะมีอีกหลายกิจการ ที่อยู่ในทุกอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเช่น ห้าง SM เจ้าของห้าง คล้าย Central บ้านเรา นอกจากจะมีห้าง SM ที่ใหญ่ติดอันดับโลก 3 แห่งแล้ว ยังมีธุรกิจค้าปลีกเยอะมาก มีแบงก์ BPO แล้วมีอสังหาริมทรัพย์ โรงแรมอีก นั่นหมายถึงว่า คนรวยรวยล้นฟ้า อยู่ในทุกธุรกิจจริงๆ สังเกตได้ในตลาดฟิลิปปินส์ จะเห็นแบรนด์ใหญ่ๆ เยอะมาก Louise Viton Rolex Patek Phillips ก็สามารถหาได้หมด เพราะว่าผู้คนนิยมจับจ่ายใช้สอย นอกจากเรื่องของใช้ที่นิยมของแบรนด์เนมแล้วของกินระดับมิเชอลิน สตาร์ Tim Ho Wan Paul's bakery หรือว่า Cheese Tard ของญี่ปุ่นที่ดังๆ ในบ้านเรา ที่นี่ก็นิยมเช่นกัน"
แต่ถ้าอยากมองเห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจ มองเห็นการพัฒนาทางด้านคุณภาพชีวิตของชาวมะนิลาด้วยสายตาก็ต้องไปที่ย่านมากาติ Makati อยู่ในเขตเมโท มะนิลา Metro Manila ย่านนี้จะเป็นแหล่งกระจุกตัวของบริษัท ทั้งในและต่างประเทศ ธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์ ห้างสรรพสินค้า และสถานทูต เป็นย่านเมืองใหม่เริ่มสร้างในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 นี้ แต่ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นหนึ่งในย่านที่สะท้อนภาพ คุณภาพชีวิตของคนเมืองได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะเป็นย่านที่มีราคาที่ดินแพงที่สุด แต่ตัวเลขผู้อยู่อาศัยในย่านมากาติ ก็มีมากถึง 6 แสนกว่าคน และยิ่งเป็นช่วงเวลาทำงานด้วยแล้วก็ จะมีคนกว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียวที่เข้ามาในเขตนี้ ดังนั้น ที่นี่จึงเป็นใจกลางเมืองของแท้เลย
การเดินทางทำให้เราได้พบคำตอบหลายๆ อย่าง ครั้งนี้ที่ฟิลิปปินส์ก็เช่นกัน ทีมงานโลก 360 องศา ได้รู้มากกว่าสิ่งที่เคยรู้ ได้เห็นมากกว่าสิ่งที่เคยเห็นว่า ในความเป็น อยู่ คือ แท้จริงแล้ว ที่นี่ไม่ได้มีแค่คนจน แถมยังมีคนรวยอยู่มาก ที่นี่ไม่ได้มีแค่ชุมชนแออัด แต่มีเมืองทันสมัย มีสำนักงานของบริษัทชั้นนำระดับโลก และมีห้างสรรพสินค้าหรูหราอยู่หลายแห่งด้วยกันโดย 3 ใน 10 สุดยอดห้างสรรพสินค้าของโลก ก็ตั้งอยู่ที่นี่ ตากาล็อก ก็ไม่ได้เป็นภาษาประจำชาติของที่นี่ แต่ภาษาประจำชาติ คือภาษา "ฟิลิปิโน" (Filipino) ซึ่งนอกจากภาษาฟิลิปิโนแล้ว คนฟิลิปปินส์ (Philipines) ยังเป็นชาติที่คนพูดภาษาอังกฤษได้มาก เป็นอันดับ 5 ของโลกอีกด้วย พยาบาลต่างชาติ เกือบร้อยละ 25 ที่ทำงานอยู่ทั่วโลก มาจากประเทศนี้ Business Processing Outsourcing ก็มีศูนย์กลางอยู่ที่นี่ นอกจากนั้นแล้วฟิลิปปินส์ยังมีความหลากหลายทางภูมิประเทศ จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในปลายทางท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายที่สุดในภูมิภาคนี้จนมีคนเปรียบเปรยว่าถ้าเที่ยวประเทศนี้ครบก็เสมือนว่าได้ท่องเที่ยวรอบโลกเลยก็ว่าได้
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสีสันและความมีสเน่ห์ ของกรุงมะนิลา ที่เชื่อว่าหลายคนอาจไม่คุ้นเคยมาก่อน ติดตามชมเรื่องราวของฟิลิปปินส์ มีมากกว่าที่รู้ มีมากกว่าที่เห็น และเป็น อยู่ คือ ได้ในรายการโลก 360 องศา วันเสาร์นี้ เวลา 20.55 น. ทาง ททบ.5
--
ใต้ภาพ
- ภาพคุ้นชินของชาวฟิลิปปินส์กับรถจี๊ปนี่
- ย่านเมืองใหม่ Bonifacio Global City
- อินทรามูรอส (Intramuros) สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งในกรุงมะนิลา