สาทร โตโพธิ์ไทย คุ้มครองเงินฝากยุค 4.0
หนึ่งในหน่วยงานที่ถูกตั้งขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบการเงินของประเทศ นั่นคือ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก
โดย พรสวรรค์ นันทะ
หนึ่งในหน่วยงานที่ถูกตั้งขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบการเงินของประเทศ นั่นคือ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (ดีพีเอ) ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อค้ำประกันเงินฝากให้ประชาชนแทนกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟื้นฟูฯ) หากเกิดปัญหาแบงก์ล้ม หรือเกิดวิกฤตสถาบันการเงินเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 หน่วยงานนี้จึงเป็นหน่วยงานที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจการเงินเป็นอย่างยิ่ง
สาทร โตโพธิ์ไทย ผู้อำนวยการดีพีเอ กล่าวเล่าถึงเหตุที่ตัดสินใจมาร่วมงานที่ดีพีเอ ว่า เพราะเคยทำงานอยู่ที่กองทุนฟื้นฟูฯ มาก่อน การมาอยู่ที่นี่ก็เหมือนกับมาทำงานกองทุนฟื้นฟูฯ อีกครั้ง ก่อนเกษียณอายุงานในอีก 3 ปีข้างหน้า จึงอยากทำอะไรที่เป็นการวางรากฐานไว้รองรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
"ผมน่าจะเป็นคนที่เคยอยู่ในยุควิกฤตปี 2540 ในรุ่นท้ายๆ ที่รู้ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ควรทำอย่างไร ทำให้มองว่าการมาอยู่ดีพีเอน่าจะสามารถนำประสบการณ์ครั้งนั้นมาวางรากฐานป้องกันปัญหาความวุ่นวายเหมือนในอดีตได้หากมันเกิดขึ้น" สาทร กล่าว
สาทร กล่าวว่า สิ่งที่อยากวางรากฐานต่อไปตามบทบาทหลักของดีพีเอ คือ 1.ดูแลจ่ายเงินคืนผู้ฝากเงินในระบบธนาคารพาณิชย์ หากเกิดปัญหาธนาคารปิดกิจการ ซึ่งเหมือนงานของกองทุนฟื้นฟูฯ ที่มีการจ่ายเงินคืนผู้ฝากเมื่อปี 2540 และ 2.การเป็นผู้ชำระบัญชีของสถาบันการเงินที่ถูกสั่งให้ปิดกิจการ ซึ่งบทบาทก็คล้ายกับองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ในอดีตที่ต้องเคลียร์ทรัพย์สินเพื่อจ่ายคืนประชาชน คืนเจ้าหนี้ แต่บทบาทของดีพีเอต่างกันบ้าง คือ เมื่อปี 2540 เกิดกับบริษัทเงินทุน (บง.) ที่ต้องจ่ายเงินคืนผู้ที่ถือตั๋วสัญญาใช้เงินทันที และสมัยนั้นปัญหาเกิดเฉพาะกรุงเทพฯ
เพื่อเตรียมการรองรับการจ่ายคืนผู้ฝากได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในระยะต่อไป ดีพีเอได้เสนอแก้ไขกฎหมายให้สามารถจ่ายเงินคืนประชาชนผู้ฝากได้โดยอัตโนมัติ โดยที่เจ้าของเงินฝากไม่ต้องมายื่นคำร้องก็ได้สิทธิในการรับเงินฝากตามข้อมูลการเงินเลย คือ หากมีธนาคารพาณิชย์ปิดกิจการก็จะมีการประกาศภายใน 40 วัน โดยประชาชนที่เป็นผู้ฝากจะมีเวลายื่นในการคำขอเพื่อขอรับเงินฝากคืนตามกำหนดหลักเกณฑ์ภายใน 90 วัน และหลังจากนั้นดีพีเอจึงจะจ่ายเงินคืนให้ประชาชนผู้ฝากภายใน 30 วันทำการ ซึ่งกฎหมายที่ขอแก้ไขจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติวาระแรกในวันที่ 1 ก.ย. 2560 นี้
ขณะที่บทบาทของดีพีเอในด้านการชำระบัญชีนั้น ได้จัดทำคู่มือการชำระบัญชีเอาไว้แล้ว เพื่อใช้ในการจัดการสินเชื่อ อสังหาริมทรัพย์ เงินลงทุน ฯลฯ ซึ่งสินทรัพย์แต่ละประเภทจะมีคู่มือเอาไว้ชัดเจนว่าหากเกิดปัญหาขึ้นต้องดำเนินการตาม ขั้นตอนอย่างไร
"ถ้าช่วยลูกหนี้ได้ก็จะเป็นประโยชน์มาก เราเลยต้องคิดหาช่องทางให้ความเสียหายน้อยที่สุด ต้องศึกษาและวางกลยุทธ์ใหม่ เพราะถ้าทำส่วนนี้ได้ดีก็ช่วยประเทศได้มาก สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจด้วย ซึ่งการจัดทำคู่มือการจัดการชำระบัญชีผ่านบอร์ดมาเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2560 นี้ หลังดำเนินการมานานร่วมปีตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง" สาธร กล่าว
นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับยุทธศาสตร์องค์กรให้เป็นดิจิทัลตามยุคไทยแลนด์ 4.0 ให้หมด ให้สอดคล้องกับการดำเนินร่วมกับกฎหมายใหม่ที่กำลังแก้ไข ห้กระบวนการทำงานรันด้วยระบบไอที จะมีการเชื่อมปรับข้อมูลกับกระทรวงมหาดไทย ธปท.ในการติดตามฐานะของสถาบันการเงิน กระทรวงการคลัง ฐานภาษีของกรมสรร พากร ฯลฯ
"แผนงานเราในระยะต่อไป จะเน้นการเป็นองค์กรที่เป็นระบบไอที นำเทคโนโลยีมาใช้ เริ่มจากปี 2560 นี้ และมีโครงการต่อไปอีก 4 ปี ที่ผมอยู่ในวาระ เป็นการปรับกลยุทธ์องค์กรใหม่แทนการมุ่งทำตามมาตรฐานโลก เพราะหลายอย่างทำไม่ได้ เพราะติดข้อกฎหมาย เช่น มาตรฐานโลกบอกต้องมีเงินกองทุนเพียงพอและสามรถกู้โดยตรงจากธนาคารกลางได้ ซึ่งไทยเราแก้กฎหมายให้เป็นตามนั้นไม่ได้ อีกอย่างการบอกว่าเงินกองทุนเพียงพอนั้น ระบุให้ชัดเจนยาก ตราบใดที่ไม่กำหนดเงื่อนไขการดูแลตามผลกระทบที่จะมีต่อระบบเศรษฐกิจเป็นสำคัญ" สาธร สรุป