โตเกียวมารีนปี’61 ยึดวิสัยทัศน์บริษัทที่ดี
ฉัตรชัย ธนจินดาเลิศ"ในส่วนของเป้าหมายที่เราตั้งไว้ปีนี้น่าจะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้เติบโต 3% แต่ถ้าสูงกว่านี้ก็ถือเป็นโบนัสของพนักงานทุกคน และเราก็เข้าถูกช่องถูกเวลา ขณะเดียวกันปีนี้ก็มีการเติบโตของยอดขายรถใหม่ ซึ่งก็เป็นผลพลอยได้ของเราไปด้วย" เป็นคำบอกของ ชินคิจิ มิกิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) ที่ชี้ให้เห็นถึงทิศทางการเติบโตของบริษัทในปีนี้
ฉัตรชัย ธนจินดาเลิศ
"ในส่วนของเป้าหมายที่เราตั้งไว้ปีนี้น่าจะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้เติบโต 3% แต่ถ้าสูงกว่านี้ก็ถือเป็นโบนัสของพนักงานทุกคน และเราก็เข้าถูกช่องถูกเวลา ขณะเดียวกันปีนี้ก็มีการเติบโตของยอดขายรถใหม่ ซึ่งก็เป็นผลพลอยได้ของเราไปด้วย" เป็นคำบอกของ ชินคิจิ มิกิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) ที่ชี้ให้เห็นถึงทิศทางการเติบโตของบริษัทในปีนี้
มิกิ กล่าวว่า เมื่อปลายปี 2559 บริษัทมีความกังวลเกี่ยวกับยอดขายรถ เพราะยอดขายรถในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตแบบชะลอตัว ปลายปี 2559 เลยตั้งเป้าหมายให้สะท้อนภาพเหตุการณ์ที่แท้จริงและตั้งเป้าไว้ที่ 3% ประมาณ 7,800 ล้านบาท
ที่ผ่านมาบริษัทตั้งเป้าเติบโตกว่าอุตสาหกรรมเล็กน้อยประมาณ 2% แต่เนื่องจากปีนี้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและมีทิศทางที่เติบโตขึ้น ทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตที่ดี บริษัทก็ตั้งเป้าตามสถานการณ์ตามความเป็นจริง เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมาไม่ค่อยเติบโต
แต่ช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาบริษัททำเบี้ยได้ 5,961 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5% ถือว่าเป็นยอดที่โตเฉลี่ยสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งคงต้องรอดูไตรมาส 4 ก่อน ถึงจะสรุปได้ว่ายอดรวมจะเป็นเท่าไร
บริษัทยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ "To be a Good Company" การเป็นบริษัทที่ดี ดังนั้นไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี รวมถึงปี 2561 บริษัทก็ยัง มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ ยึดมั่นใน คำสัญญา และให้บริการที่มีคุณภาพตอบโจทย์ในการรักษาฐานลูกค้าระยะยาว พรีเมียมเซอร์วิส
ที่สำคัญการสร้างช่องทางขับเคลื่อนธุรกิจหลักๆ ยังมาจากตัวแทนและโบรกเกอร์ที่บริษัทต้องสร้างรากฐานให้มั่นคง สำคัญเหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมาที่บริษัทให้ความสำคัญกับฝ่ายตัวแทนและโบรกเกอร์มาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับทิศทางประกันภัยในปี 2561 น่าจะเติบโตควบคู่ไปกับธุรกิจที่ลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐค่อนข้างมาก เช่น รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จะมีกลุ่มทุนของญี่ปุ่นมาลงทุนตรงนี้ด้วย ซึ่งถ้าเริ่มก่อสร้างได้ก็จะทำให้มีโอกาสที่บริษัทจะเข้าไปรับงานได้
"ทิศทางการเติบโตของธุรกิจในไทยเริ่มนิ่งขึ้นหลังจากที่เราผ่านไปหลายเหตุการณ์ โครงการลงทุนระดับมหภาคทำให้มีโอกาสในการเติบโตที่สูง" มิกิ กล่าว
อีกทิศทางที่กำลังเติบโต คือ เรื่องประกันเดินทาง เนื่องจากคนไทยชอบไปญี่ปุ่น และคนเริ่มท่องเที่ยว ประกันเดินทางก็เป็นโอกาสหนึ่ง และบริษัทเองก็เป็นผู้สนับสนุนกีฬาโอลิมปิก 2563 ที่โตเกียว คนไทยจะเริ่มเดินทางเข้าไปญี่ปุ่นมากขึ้นจึงถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประกันภัยรถยนต์ในปี 2561 นั้นยังเป็นเรื่องที่คาดเดายากมาก แต่จากประสบการณ์ รถยนต์ส่วนใหญ่ เช่น โครงการรถคันแรกเริ่มทยอยครบกำหนด 5 ปีแล้ว ทำให้ผู้บริโภคก็เริ่มกลับเข้ามาซื้อรถใหม่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็จะมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาด ซึ่งก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อรถมากขึ้น ปีหน้าจึงมีโอกาสเติบโตขึ้น แต่เท่ากับปีนี้หรือไม่ก็ต้องรอดูอีกระยะหนึ่ง
ส่วนสภาพการแข่งขันโดยรวมมีแนวโน้มเป็นทางบวกในเรื่องการเติบโต แต่หลายบริษัทประกันยังมีเป้าหมายที่ต้องการส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม ดังนั้นจึงยังมีบางบริษัทต้องใช้กลยุทธ์ด้านราคาเป็นตัวนำ โดยยังไม่ได้สะท้อนภาพกำไรขาดทุนที่แท้จริงของตัวเองซึ่งเป็นเรื่องอันตราย
"แต่บริษัทขนาดใหญ่พยายามเลี่ยงกลยุทธ์ด้านราคา อย่างบริษัท โตเกียวมารีน ประกันภัย ก็ใช้ราคา สมเหตุสมผล ไม่ได้มีจุดยืน ทุ่มราคาเพื่อให้ได้งานมาแต่อย่างใด แต่บริษัทต้องยืนอยู่ได้โดยใช้กลยุทธ์การดูแล ลูกค่าอย่างยั่งยืน" มิกิ กล่าว ทิ้งท้าย