เล็งฟื้นสนามบินเก่าอุตรดิตถ์

 บริษัท การบินตาก เสนอแผนพัฒนาสนามบินเก่าอุตรดิตถ์ เปิดให้บริการการบินพาณิชย์

นายประสงค์ อุไรวรณ์ นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า นายภูริตา ทาระพันธ์ ประธานบริษัท การบินตาก ได้มาหารือเพื่อหาแนวทางในการเปิดสายการบินพาณิชย์ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ปี 2546 บริษัทดังกล่าวเคยเข้ามาหารือแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ก็เงียบไป เนื่องจากติดปัญหาการใช้ที่ดินบริเวณสนามบินอุตรดิตถ์เก่า หรือหนองปืนแตก บ้านวังยาง หมู่ 1 ต.ผาจุก อ.เมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นที่ดินที่มีหนังสือสำหรับที่หลวง (นสล.) ครอบครองอยู่พื้นที่ราว 1,085 ไร่เศษ จึงไม่สามารถให้เอกชนเช่าหรือใช้ประโยชน์ได้

นายประสงค์ กล่าวว่า ปัจจุบันชาว จ.อุตรดิตถ์ จะใช้บริการสนามบินที่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย และสนามบิน จ.พิษณุโลก การเข้ามาหารือของบริษัทเอกชนมีเกิดขึ้นอย่างน้อย 3-4 ครั้งแล้ว ซึ่งบริษัทเหล่านี้คงจะเชื่อมั่นว่าหากเข้ามาพัฒนาและเปิดให้บริการคงจะมีผู้ใช้บริการจำนวนมากเพียงพอกับการลงทุนพัฒนาสนามบินอุตรดิตถ์ได้

“การลงทุนนั้นจะดำเนินการโดยเอกชนทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับงบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด จะมีกำไรหรือขาดทุนบริษัทเอกชนรับผิดชอบเอง แต่สิ่งที่กระทรวงคมนาคมให้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนหน้านี้ว่า สนามบิน จ.อุตรดิตถ์ไม่คุ้มกับการลงทุนนั้น คงคิดว่าเป็นการลงทุนใหม่ทั้งหมด ทำให้โอกาสการมีสนามบินของ จ.อุตรดิตถ์ จึงไม่เกิดขึ้น” นายประสงค์ กล่าว

นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ กล่าวต่อว่า หากบริษัทเอกชนเข้ามาพัฒนาและสามารถเปิดให้บริการโดยใช้สนามบินเก่าของ จ.อุตรดิตถ์ได้ก็จะเกิดประโยชน์ต่อ จ.อุตรดิตถ์ อย่างมหาศาล ทั้งการรองรับกับการเปิดด่านการค้าชายแดนไทย-ลาว รวมทั้งด้านการท่องเที่ยวที่จะเชื่อมโยงกับเมืองมรดกโลกเมียนมา ไทย และลาว การเดินทางจะสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

นายประสงค์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้มีกลุ่มธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ โดยเห็นว่า จ.อุตรดิตถ์ มีขีดความสามารถและศักยภาพเพียงพอที่จะเข้ามาลงทุน แต่เมื่อพบว่าไม่มีสนามบินรองรับก็ถอนโครงการไปลงในพื้นที่อื่นซึ่งมีสนามบิน เพราะปัจจัยการเดินทางเป็นเรื่องสำคัญในการลงทุนทางธุรกิจ

สำหรับสนามบินเก่า จ.อุตรดิตถ์ สร้างเมื่อปี 2511 โดยกรมชลประทาน เพื่อรองรับการเดินทางของวิศวกรต่างประเทศและขนส่งอุปกรณ์ก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ หลังจากสร้างเขื่อนแล้วเสร็จก็เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ไม่นานก็ต้องปิดตัวลงไป เนื่องจากไม่มีประชาชนใช้บริการ กลายเป็นสนามบินร้างในที่สุด โดยจากการลงพื้นที่สำรวจพบว่า มีพื้นที่ประมาณ 800 ไร่ สำหรับโครงสร้างต่างๆ อาทิ อาคารผู้โดยสารและหอบังคับการบินได้รื้อทิ้งไปแล้ว ส่วนพื้นทางวิ่งสำหรับขึ้นลงของเครื่องบินเป็นหินคลุกยังมีความแข็งแรงดีอยู่