ธนาคารกรุงเทพไม่เร่งแผนปิดสาขา
ธนาคารกรุงเทพยันช่องทางสาขายังจำเป็น รอดูแบงก์กิ้งเอเย่นต์และเปิดบัญชีผ่านโมบายก่อนปรับแผน
ธนาคารกรุงเทพยันช่องทางสาขายังจำเป็น รอดูแบงก์กิ้งเอเย่นต์และเปิดบัญชีผ่านโมบายก่อนปรับแผน
นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ธนาคารไม่ได้มุ่งลดสาขาอย่างมีนัยสำคัญ แต่พิจารณาตามความเหมาะสม โดยธนาคารยังเปิดสาขาใหม่ในจุดที่เป็นกลยุทธ์ แต่จุดไหนความต้องการสาขาน้อยลง และสาขาใกล้เคียงรองรับได้ก็จะควบรวม คาดว่าสิ้นปีนี้จำนวนสาขาสุทธิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
“ปริมาณธุรกรรมสาขาลดลงแต่ลูกค้ายังต้องการไปสาขาอยู่ สิ่งที่ต้องทำคือปรับบทบาทเทลเลอร์ให้เป็นที่ปรึกษาแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนและประกันชีวิตที่เป็นการออมช่วยให้ลูกค้ามั่นคงในชีวิต” นางปรัศนี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมสาขาลดลงชัดเจนหลังจากลดค่าธรรมเนียมธุรกรรมดิจิทัล โดยเฉพาะธุรกรรมการโอนลดลงทั้งที่สาขาและเอทีเอ็ม เช่นเดียวกับการจ่ายบิลที่สาขาลดลงไปจ่ายบนโมบายแทน แต่ธุรกรรมการเปิดบัญชียังมีต่อเนื่องเพราะช่องทางดิจิทัลยังไม่รองรับการเปิดบัญชี
ทั้งนี้ ธนาคารทดสอบอี-เควายซียืนยันตัวตนด้วยใบหน้าอยู่ในแซนด์บ็อกซ์ หากอี-เควายซีออกจากแซนด์บ็อกซ์ และดิจิทัลไอดีเริ่มใช้ได้ปลายไตรมาส 3 เชื่อว่า ทิศทางการเปิดบัญชีบนดิจิทัลจะเพิ่มมากขึ้น และธุรกรรมสาขาจะลดลงชัด
นางปรัศนี กล่าวอีกว่า ธุรกรรมดิจิทัลเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดถึง 100% หลังจากที่ลดค่าธรรมเนียม สัดส่วนแบ่งเป็นโมบาย 90% ส่วนอีก 10% ใช้อินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นผู้สูงอายุและมีบางธุรกรรมที่ยังไม่อยู่บนโมบาย เช่น การโอนเงินไปต่างประเทศ ปัจจุบันธนาคารมีผู้ใช้โมบายแบงก์กิ้งกว่า 5 ล้านราย ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 8 ล้านรายในสิ้นปี
สำหรับการรับมือรายได้ค่าธรรมเนียมลดลงจะทำผลิตภัณฑ์การเงินต่อยอดบริการจากชำระเงินโดยร่วมกับพันธมิตร เช่น นักศึกษา จะมีบริการเพย์เมนต์แฝงในแอพที่นักศึกษาใช้ รวมทั้งมุ่งจุดแข็งที่ประกันและเวลธ์ ขณะเดียวกันต้องดูแลการลดต้นทุนเน้นบริหารเงินสดที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ธนาคารศึกษาการตั้งแบงก์กิ้งเอเย่นต์ซึ่งมีรูปแบบหลากฅหลาย โดยธนาคารมีแบงก์กิ้งเอเย่นต์ชำระเงินอยู่แล้ว ก็จะมีเพิ่มในเรื่องฝากถอน เพื่อตอบโจทย์การเข้าถึงบริการการเงินแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่เฉพาะพื้นที่ห่างไกล