ความอลังการโบสถ์คาทอลิก จันทบุรี
ที่ผมตั้งชื่อเรื่องว่าอลังการนั้นไม่เกินความจริง เพราะอาคารของโบสถ์อายุ 109 ปี
โดย สมาน สุดโต
ที่ผมตั้งชื่อเรื่องว่าอลังการนั้นไม่เกินความจริง เพราะอาคารของโบสถ์อายุ 109 ปี (นับปีที่ทำพิธีเสก คือ พ.ศ. 2452) แห่งนี้ เป็นที่รวมศรัทธาของสัตบุรุษชาวคาทอลิกนับพัน มองไปมุมไหนไม่ว่าภายนอกหรือภายในล้วนแต่เป็นสิ่งปลูกศรัทธาทั้งสิ้น
เมธาดล วิจักขณะ รองอธิบดีกรมศิลปากร นำคณะสื่อมวลชนเข้าร่วมโครงการเผยแพร่มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ จ.จันทบุรีวันที่ 16-17 ส.ค. 2561 หนึ่งในบัญชีที่อยู่ในโครงการได้แก่ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล หรือโบสถ์คาทอลิก เมื่อเข้าก็ได้ พจน์ พรรณศิริ ให้การต้อนรับและบรรยายว่า โบสถ์คาทอลิกแห่งนี้เริ่มก่อตั้งโดยชาวเวียดนามที่อพยพมาทางเรือจำนวน 100 กว่าชีวิต ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนแรกสร้างขนาดเล็กจึงไม่มีความสะดวก ส่วนชุมชนท้องถิ่นก็ไม่ให้การสนับสนุน เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกจึงมีผู้คนอพยพมาที่นี่ ชาวญวนได้ใช้ความรู้ทางพยาบาลรักษาบาดแผลให้ตามความสามารถ ความทราบถึงพระยาวชิรปราการ (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) พระองค์ท่านจึงสนับสนุนให้ตั้งหลักปักฐานที่นี่...เมืองจันทบุรี
ลำดับการสร้างโบสถ์ หรืออาสนวิหารหลังที่ 1 สร้าง พ.ศ. 2254-2295 ต่อมาถูกทิ้งร้าง เพราะปัญหาความไม่สงบในหมู่บ้านคาทอลิก ราชการจึงส่งคาทอลิกบางส่วนไปอยุธยา แต่บางส่วนไม่ไป หลบเข้าป่า โบสถ์จึงร้างนาน 20 ปี (2275-2295)
หลังที่ 2 พ.ศ. 2295-2377 บาทหลวงเดอกัวนา รวบรวมชาวคริสต์ 200 กว่าคน สร้าง อยู่ได้ 82 ปี
หลังที่ 3 พ.ศ. 2377-2398 บาทหลวงมัทธีอัส โด เจ้าอาวาส กับบาทหลวงเคลมังโซ ผู้ช่วย ร่วมสร้างหลังที่ 3 เป็นโบสถ์ไม้และไม้ไผ่ใช้ประกอบพิธีกรรม สำหรับชาวคริสต์ 1,000 คน โดยย้ายมาอยู่ที่ตั้งใหม่ คือที่ตั้งหลังที่ 5 ในปัจจุบัน
หลังที่ 4 สร้าง พ.ศ. 2398-2448 ระยะเวลา 48 ปี สังฆราชปัลเลอกัวซ์ สนับสนุนให้สร้าง เพราะของเดิมคับแคบ เมื่อสร้างใหม่จุคนได้มาก เป็นอาคารถาวร ใช้เวลาสร้างนานถึง 21 ปีหลังที่ 5 หรือหลังปัจจุบันสร้าง พ.ศ. 2448 นับถึงวันนี้มีอายุเกินหนึ่งศตวรรษ หลังใหม่ใหญ่กว่าเดิม มีความกว้าง 20 เมตร ยาว 60 เมตร ลึก 2 เมตร เริ่มใช้ประกอบพิธีมิสซา พ.ศ. 2450 จากนั้นได้หาอุปกรณ์มาแต่งเติม จนกระทั่งงามตระการตาในปัจจุบัน เดิมวิหารติดยอดแหลมบริเวณหอระฆังทั้งสองหอ แต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2483 ทางรัฐบาลได้มีคำสั่งให้รื้อออกด้วยเหตุผลว่าจะเป็นเป้าทิ้งระเบิดจากเครื่องบินรบ ภายหลังสงครามยุติก็ได้นำมาติดตั้งอีกครั้งในวันที่ 11 ธ.ค. 2552
อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล นับเป็นหนึ่งในวิหารที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย และเป็นแห่งเดียวในฝั่งตะวันออก ภายในวิหารมีการตกแต่งเพดานเป็นท้องเรือไม้โนอาห์ นอกจากนี้ยังมีแม่พระที่มีความล้ำค่า ตกแต่งด้วยพลอยกว่า 2 แสนเม็ด หรือกว่า 2 หมื่นกะรัต และฐานซึ่งหล่อขึ้นด้วยเงินบริสุทธิ์ โดยช่างสิบหมู่ของกรมศิลปากร ใช้เวลารังสรรค์ 1 ปี ในวาระที่วัดมีอายุครบ 100 ปี แต่วิหารแห่งนี้ได้รับรางวัลอนุรักษ์อาคารดีเด่น ประจำปี 2542 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย
ส่วนกระจกสีนั้นสั่งมาจากประเทศฝรั่งเศส จะเห็นความงามของกระจกนี้ต้องเข้าดูในอาคาร เพราะรอบนอกกรุด้วยกระจกนิรภัยจึงไม่สามารถเห็นความงามได้
จ.จันทบุรี ยกโบสถ์คริสต์แห่งนี้ให้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัดเพราะงดงามอลังการเป็นอย่างยิ่ง