คาราบาว3ปีขึ้นแชมป์
คาราบาวแดง ประกาศ 3 ปี โค่นแชมป์เครื่องดื่มชูกำลัง ชูกลยุทธ์ปรับแบรนด์ให้ดูทันสมัยและใช้สาว บาวแดงการตลาดถึงกลุ่มฐานราก
คาราบาวแดง ประกาศ 3 ปี โค่นแชมป์เครื่องดื่มชูกำลัง ชูกลยุทธ์ปรับแบรนด์ให้ดูทันสมัยและใช้สาว บาวแดงการตลาดถึงกลุ่มฐานราก
นายร่มธรรม เศรษฐสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมจะขึ้นสู่อันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มชูกำลังของตลาดในประเทศภายในปี 2563 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถมีส่วนแบ่งการตลาดมาร์เก็ตแชร์มากที่สุดจากปัจจุบันอยู่ที่ 24% และภายในสิ้นปีนี้น่าจะเพิ่มเป็น 25-26% ซึ่งจะแซงเครื่องดื่มเอ็ม-150 ของบริษัท โอสถสภา ที่ปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 39%
"ไม่ได้กังวลที่บริษัท โอสถสภา จะ มีการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะจากผลสำรวจของนีลสันตลอดกว่า 5-6 ปีที่ผ่านมา พบว่า ส่วนแบ่งการตลาดของเอ็ม-150 ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก เคยอยู่ที่ 49% แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 39%" นายร่มธรรม กล่าว
ทั้งนี้ กลยุทธ์ที่บริษัทจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้จะใช้ 2 กลยุทธ์หลัก คือ การปรับแบรนด์สินค้าให้ให้ดูมีความทันสมัยอยู่เสมอ เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นที่ดูลุคเป็นผู้ใหญ่กว่า ประกอบกับใช้กลยุทธ์การตลาดที่มี สาวบาวแดงในการกระจายสินค้าเพื่อเข้าถึงกลุ่มผุ้บริโภคที่เป็นฐานรากมากขึ้น ขณะที่คู่แข่งไม่มีใครทำการตลาดที่เหมือนเรา
นายพงศานติ์ คล่องวัฒนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน กล่าวว่า ยอมรับว่าปีนี้รายได้บริษัทต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากเดิมคาดรายได้ปีนี้จะเติบโต 25% ลดลงเป็นเติบโตเพียง 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำรายได้แล้ว 7,048 ล้านบาท สาเหตุมาจากที่ยอดขายในต่างประเทศชะลอตัว โดยเฉพาะผลกระทบจากจีน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทต้องเร่งระบายสต๊อกสินค้า ทำให้ไม่มียอดคำสั่งซื้อใหม่เข้ามา
"ยอมรับว่าอาจทำยอดขายที่จีนได้เพียง 150-200 ล้านกระป๋อง จากเดิมตั้งเป้าทำยอดขายในจีนที่ 300 ล้านกระป๋อง ซึ่งปัจจุบันตลาดจีนมีส่วนแบ่งทางการตลาดไม่ถึง 2% และมีพนักงาน 1,300 คน เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างกระทิงแดง มีพนักงานในจีนสูงถึง 4.5 หมื่นคน" นายพงศานติ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี มองว่าไตรมาส 3 และ 4 ยอดขายจะกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดในประเทศ ตามภาพรวมทางเศรษฐกิจ ที่มีทิศทางดีขึ้น โดยหากเทียบกับตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทยครึ่งปีแรกหดตัวไป 2%
สำหรับกรณีที่รัฐบาลอังกฤษอาจ ห้ามขายเครื่องดื่มชูกำลังสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี บริษัทประเมินว่า ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเป้าหมายหลักของบริษัทเน้นลูกค้ากลุ่มอายุ 18-35 ปี โดยปีนี้วางเป้ายอดขายที่อังกฤษและประเทศใกล้เคียง 20 ล้านกระป๋อง
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากในประเทศ 52% ต่างประเทศ 48% โดยต่างประเทศกลุ่ม CLMV ครึ่งปีแรกโตกว่า50% และคิดเป็น 70-80% ของรายได้รวมจากต่างประเทศ ส่วนตลาดจีนคิดเป็น 10% ของรายได้จากต่างประเทศ