การยาสูบฯวอนรัฐช่วยพยุงก่อนขาดทุน
ยาสูบหวั่นเก็บเงินบุหรี่สมทบกองทุนบัตรทองอีก 2 บาท จะกระทบฐานะหนัก คาดสาธารณสุขเสนอ ครม.เร็วๆ นี้
ยาสูบหวั่นเก็บเงินบุหรี่สมทบกองทุนบัตรทองอีก 2 บาท จะกระทบฐานะหนัก คาดสาธารณสุขเสนอ ครม.เร็วๆ นี้
แหล่งข่าวการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขยังพยายามที่จะเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดเก็บเงินสมทบเพื่อสนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยงานบริการภาครัฐในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยให้มีการเก็บเงินจากการขายบุหรี่อีก 2 บาท เข้ากองทุนบัตรทองให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในการประชุมสัปดาห์นี้ หากไม่ทันก็จะเสนอในครั้งหน้าก่อนที่จะสิ้นปี 2561
แหล่งข่าวระบุว่า การเก็บเงินบุหรี่ดังกล่าวจะกระทบกับอุตสาหกรรมยาสูบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการดำเนินงานของ ยสท. ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบรุนแรงจากการขึ้นภาษีอัตราบุหรี่ใหม่ ซึ่งได้ทำให้ยอดขายลดจากกำไรปีละ 9,000 ล้านบาท เหลือกำไรปีล่าสุดไม่ถึงพันล้านบาท เนื่องจากภาษีที่สูงขึ้นทำให้กำไรบุหรี่จากซองละประมาณ 7 บาท เหลือไม่ถึง 1 บาท ดังนั้นหากมีการเก็บเงินเข้ากองทุนบัตรทองอีก จะทำให้ผลการดำเนินของ ยสท.ในปี 2562 ประสบผลขาดทุนอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ในวันที่ 1 ต.ค. 2562 ภาษีบุหรี่ตามมูลค่าจะปรับขึ้นจาก 20% เป็น 40% จะทำให้กระทบกับอุตสาหกรรมยาสูบและการดำเนินของ ยสท.เพิ่มมากขึ้นไปอีก ซึ่งที่ผ่านมาทาง ยสท.ได้ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาการปรับขึ้นภาษีต่อไป แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ ทำให้ ยสท.ต้องเตรียมตัวในกรณีที่เลวร้ายที่สุด คือ มีการเก็บเงินบุหรี่เข้ากองทุนบัตรทอง 2 บาท และไม่มีการเลื่อนการขึ้นภาษี 40% ออกไป
ก่อนหน้านี้ สมาคมชาวไร่ยาสูบและตัวแทนภาคียาสูบประเทศไทย ได้เรียกร้องให้รัฐยกเลิกร่างกฎหมายเก็บภาษีบุหรี่สมทบกองทุนบัตรทอง พร้อมสนับสนุนการเลื่อนภาษียาสูบ 40% ออกไป หลังจากที่ได้รับผลกระทบจาก ยสท. ลดโควตาซื้อใบยาสูบลง 50% ล่าสุด ครม.ได้เห็นชอบมาตรการชดเชยเงินให้ชาวไร่ยาสูบให้ได้รายได้ 70% ของที่เคยได้ แต่เป็นมาตรการชั่วคราวช่วยเฉพาะฤดูการเพาะปลูกล่าสุดเท่านั้น และ ครม.ยังให้คลังและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปศึกษาจัดการเรื่องพืชปลูกทดแทนให้กับชาวไร่ยาสูบให้เสร็จภายในปีหน้า
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า เรื่องการปรับภาษีบุหรี่ตามมูลค่าเป็น 40% ต้องแล้วแต่รัฐบาลใหม่