คนแห่ถือทอง ดันส่งออกเดือนก.ค.พลิกบวก 4.3%โตสุดรอบ5เดือน
ส่งออกไทยเดือนก.ค. กลับมาขยายตัวอีกครั้งอยู่ที่ 4.3% ผลจากสินค้าทองคำเป็นที่ต้องการถือครองในตลาดโลก ส่วนผลกระทบจากสงครามการค้าเริ่มลดลง แต่ 7 เดือน ยังติดลบ อยู่ 1.9% ลุ้นครึ่งปีหลัง พยุงส่งออกให้ได้เดือนละ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่งออกไทยเดือนก.ค. กลับมาขยายตัวอีกครั้งอยู่ที่ 4.3% ผลจากสินค้าทองคำเป็นที่ต้องการถือครองในตลาดโลก ส่วนผลกระทบจากสงครามการค้าเริ่มลดลง แต่ 7 เดือน ยังติดลบ อยู่ 1.9% ลุ้นครึ่งปีหลัง พยุงส่งออกให้ได้เดือนละ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2562 มีมูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลับมาขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 เดือน ขยายตัว 4.3 % ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขยายตัวในระดับสูงของการส่งออกทองคำจากความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยในตลาดโลก
นอกจากนี้ ผลกระทบจากสงครามการค้าเริ่มลดลงจากการเร่งดำเนินนโยบายที่เอื้อต่อการส่งออกอย่างเป็นรูปธรรมประกอบกับการส่งออกสินค้าศักยภาพใหม่ไปยังตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการส่งออกทดแทนสินค้าจากจีนมีการเติบโตได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันยังคงชะลอตัวลงจากปัจจัยด้านราคาเป็นหลัก
สำหรับแนวโน้มการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปีคาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าศักยภาพใหม่ที่หลากหลาย ทั้ง สินค้าเกษตร/อาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เมื่อรวมกับแผนผลักดันการส่งออกโดยคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกระทรวงพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในหลายประเทศ น่าจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจและการค้าโดยรวม และอาจทำให้การส่งออกในช่วงไตรมาสสุดท้ายมีโอกาสกลับมาขยายตัวได้
สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญที่ขยายตัวและน่าจับตามอง ได้แก่ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องส่งวิทยุ โทรเลข โทรศัพท์ และโทรทัศน์ และนาฬิกาและส่วนประกอบ ที่เริ่มเห็นทิศทางการขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวม 7 เดือนแรกของปี 2562 การส่งออกหดตัว 1.9 %
โดยมูลค่าการค้ารวม มูลค่าการค้าในรูปของเงินบาท เดือนกรกฎาคม 2562 การส่งออก มีมูลค่า 654,937 ล้านบาท หดตัว 0.7 % เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน(YoY)
ในขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 660,641 ล้านบาท ลดลง3.1% ส่งผลให้การค้าขาดดุล 5,704 ล้านบาท รวม 7 เดือนแรกของปี 2562 การส่งออกมีมูลค่า 4,536,245 ล้านบาท (ลดลง 2.4% ) การนำเข้ามีมูลค่า 4,472,882 ล้านบาท (ลดลง 2.2%) และการค้าเกินดุล 63,364 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามแนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2562 ยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนทางการค้า โดย การส่งออกยังมีปัจจัยเชิงบวกที่สำคัญ คือ 1. การส่งออกสินค้าศักยภาพใหม่ที่หลากหลาย ทั้ง สินค้าเกษตร/อาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมีการเติบโตได้ดี โดยเฉพาะการส่งออกเครื่องสำอาง อาหารสำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร
2. การค้าส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯทดแทนสินค้าจากจีนอันเนื่องมาจากสงครามทางการค้า มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 3. การดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายโดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี โดยจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 4 (4) การดำเนินแผนผลักดันการส่งออกโดยคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกระทรวงพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ที่เล็งผลในระยะสั้นจะช่วยลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าและสนับสนุนให้การส่งออกในช่วงที่เหลือของปีขยายตัวได้ดียิ่งขึ้น ฃ
และ5. การดำเนินนโยบายการค้าควบคู่กับการลงทุนและการบริการ โดยเฉพาะกลยุทธ์รายพื้นที่ขยายโอกาสการส่งออกในกลุ่มตลาดที่แข็งแกร่ง และเปิดตลาดใหม่ มีสัญญาณการขยายตัวต่อเนื่อง