เวิลด์แก๊ส ทำตลาดถังบรรจุ 8 กก. ครั้งแรกในไทย เจาะครัวรือนรับยุคโควิดเน้นประหยัด

นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจก๊าซหุงต้ม "เวิลด์แก๊ส" กล่าวว่า จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ ธุรกิจพลังงานจำเป็นต้องปรับตัวให้พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน โดยบริษัทซึ่งเป็นผู้นำในตลาดก๊าซแอลพีจี ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกในการใช้งานที่หลากหลายและตอบสนองความต้องการได้อย่างลงตัวมากขึ้น

"บริษัทเห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ในตลาดก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน จึงได้พัฒนาถังก๊าซหุงต้ม “เวิลด์แก๊ส” ขนาด 8 กิโลกรัมขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นจากความต้องการของตลาดยุคปัจจุบัน ทั้งการเติบโตของที่พักอาศัยยุคใหม่ที่มีขนาดพื้นที่ครัวเล็กลง การเกิดผู้ประกอบการร้านอาหารแบบรถเข็นหรือสตรีทฟู้ดรายใหม่ ๆ หรือแนวโน้มของผู้ที่นิยมกิจกรรมแคมปิง รวมทั้งการที่ผู้บริโภคต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้นในขณะนี้" นางสาวชมกมล กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทเห็นช่องว่างในตลาดก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน จากเดิมที่มีถังขนาด 7 และ 9 กิโลกรัมอยู่แล้ว โดยถังขนาดใหม่ 8 กิโลกรัมจึงอยู่กึ่งกลางพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ตอบโจทย์ทั้งด้านข้อจำกัดของพื้นที่ตั้งถังก๊าซขนาดเล็ก น้ำหนักที่เคลื่อนย้ายได้สะดวก และคุ้มค่าด้วยราคาที่ประหยัดกว่า ซึ่งจะเป็นจุดแข็งที่แตกต่างและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มเป้าหมายในยุค Next Normal

สำหรับถังก๊าซหุงต้ม “เวิลด์แก๊ส” ขนาด 8 กิโลกรัม ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายหลากหลาย ทั้งกลุ่มผู้ค้าอาหารรถเข็นหรือสตรีทฟูดส์ซึ่งมีเงินทุนจำกัด กลุ่มครัวเรือนขนาดเล็กที่ปริมาณการใช้น้อย ไม่ได้ใช้เป็นประจำทุกวัน

รวมถึง กลุ่มผู้บริโภคที่มีข้อจำกัดของสถานที่ตั้งถังก๊าซในที่พักอาศัย ด้วยความสูงตัวถัง 31 ซม. สามารถจัดเก็บเข้าตู้ซิงค์ในห้องครัวได้ หรือใช้เป็นถังสำรอง รวมทั้งกลุ่มผู้นิยมกิจกรรม Camping ที่ต้องการความสะดวกในการขนย้าย

นอกจากนี้ ยังเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคที่ใช้ถังก๊าซขนาด 7 กก. อยู่แล้ว ด้วยราคาของถังรวมน้ำก๊าซที่ใกล้เคียงกัน แต่ปริมาณก๊าซมากกว่า จึงคุ้มค่ากว่า หรือสำหรับผู้บริโภคที่ใช้ถังก๊าซขนาด 4 กิโลกรัมอยู่แล้ว แต่ปริมาณการใช้มาก จึงสามารถใช้ขนาด 8 กิโลกรัมเพียงถังเดียวโดยไม่จำเป็นต้องมีถังสำรอง

สำหรับถัง “เวิลด์แก๊ส” ขนาด 8 กิโลกรัม ยังใช้วาล์วขนาดเดียวกันกับถังก๊าซขนาด 15 กิโลกรัม สามารถใส่หัวปรับทั้งแรงดันสูงและแรงดันต่ำแต่เข้ากับเตาที่ใช้งานอยู่ปกติ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานของผู้บริโภค โดยถังทุกใบมี QR Code เพื่อตรวจสอบประวัติ ทั้ง วันที่ผลิต วันที่ผ่านการทดสอบ และประวัติการซ่อมถัง เพื่อใช้ในการควบคุมคุณภาพถัง ตลอดจนมีการซ่อมบำรุงสภาพถัง และทำการทดสอบครบวาระทุก 5 ปี และ 10 ปี เพื่อตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานอุตสาหกรรม

ปัจจุบัน ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ เป็นผู้นำอันดับ 2 ในตลาดก๊าซหุงต้มแอลพีจีทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน ด้วยส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 18 % มีจำนวนถังก๊าซที่อยู่ในตลาด ขนาด 4 กิโลกรัม อยู่ที่ 2,100,000 ถัง ขนาด 13.5 กิโลกรัม อยู่ที่ 580,000 ถัง และขนาด 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 3,400,000 ถัง และขนาด 48 กิโลกรัม อยู่ที่ 360,000 ถัง