ไปรษณีย์ไทยบุกลาวเตรียมเปิดเส้นทางขนส่งผ่านรถไฟเร็วสูงจีน
ไปรษณีย์ไทยบุกลาวเตรียมเปิดเส้นทางขนส่งผ่านรถไฟเร็วสูง “เวียงจันทน์ – คุนหมิง” นำร่อง สินค้าสปป.ลาวขึ้น thailandpostmart.com คู่บริการเก็บเงินปลายทาง พร้อมเปิดบริการฝากเงินข้ามประเทศสำหรับคนลาวส่งเงินกลับบ้าน
นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศ CLMV ที่น่าสนใจตรงที่มีเส้นทางขนส่งทางรางผ่านรถไฟความเร็วสูง “เวียงจันทน์ – คุนหมิง” จากสสป.ลาวสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน สามารถขนส่งไปรษณีย์ภัณฑ์และสินค้าล็อตใหญ่ได้ เช่น สินค้าทางการเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค ช่วยลดต้นทุนถูกลงกว่าการขนส่งทางอากาศโดยเครื่องบินประมาณ 20%
ไปรษณีย์ไทยจึงได้ลงนามความร่วมมือทางด้านขนส่งกับรัฐวิสาหกิจไปรษณีย์ลาว (Entreprise des Postes Lao : ปนล) เพื่อกระตุ้นให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศมีความคึกคัก ทั้งสินค้าจากไทยผ่านลาวไปจีนและจากจีนผ่านลาวมาไทย ด้วยการนำร่องนำสินค้าท้องถิ่นของ สปป.ลาว มาจำหน่าย บนเว็บไซต์ thailandpostmart.com ของไปรษณีย์ไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างคัดเลือกสินค้า เช่น งานคราฟท์ กาแฟ สินค้าหัตถกรรมจากไม้ ผ้าทอมือ ฯลฯ โดยจะเน้นกลุ่มสินค้าที่มีเรื่องราวหรือความน่าสนใจทั้งในเชิงการผลิต แหล่งที่มา อัตลักษณ์ของสินค้า
รวมถึงการทำการตลาดและการขนส่งให้กับสินค้าไทยที่ต้องการขยายไปสู่ สปป.ลาว การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านตลาดตราไปรษณียากรและสิ่งสะสม นอกจากนี้ ยังจะมีการนำอาหารทะเลสดและแห้งที่เป็นที่ต้องการของชาว สปป.ลาว มาจำหน่ายผ่านช่องทางไปรษณีย์ด้วยบริการฟิ้วซ์ โพสต์ ซึ่งสามารถส่งอาหารทะเลให้ได้ทั้งแบบรถห้องเย็นและบรรจุภัณฑ์ที่ควบคุมอุณหภูมิ โดยจะมีการพิจารณาเรื่องพื้นที่ที่สามารถรับไปจัดจำหน่ายต่อเพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพอาหารได้
นอกจากนี้ทั้ง 2 หน่วยงานได้เตรียมพัฒนาบริการการเงินในรูปแบบใหม่ คือการรับฝากเงินจากคนลาวที่อยู่ในไทยไปยังสปป.ลาว และบริการจ่ายเงินปลายทาง (COD) ระหว่างประเทศ
ด้านนายฤทธิกร ภูมิศักดิ์ ผู้อำนวยการใหญ่ไปรษณีย์ลาว กล่าวว่า ไปรษณีย์ลาวประสบปัญหาชาดทุนมาโดยตลอด แต่นับจากปีนี้ไปรษณีย์ลาวจะมีกำไรเป็นปีแรก มาจากกลยุทธ์ในการปรับตัวเป็นฟินเทค และปรับตัวสู่ศูนย์รองรับไลฟ์สไตล์ของคน ด้วยข้อได้เปรียบของศูนย์ให้บริการ 147 แห่ง จากทั้งหมด 300 แห่ง อยู่ใจกลางเมือง จึงสามารถเปิดศูนย์ให้ห้างสรรพสินค้า,สถาบันการเงิน รวมถึงบริการภาครัฐเข้ามาเช่นใช้พื้นที่ได้
ดังนั้นศูนย์ไปรษณีย์ลาวต้องไม่ได้เป็นเพียงบริการการส่งพัสดุ เนื่องจากปริมาณการส่งต่อวันอยู่เพียง 60,000 ชิ้น และด้วยเส้นทางที่เข้าถึงยาก ต้องใช้เวลาขนส่งนานเพราะต้องรวมให้ได้หลายชิ้นก่อนส่ง ขณะที่ตลาดอี-คอมเมิร์ซไม่ได้คึกคัก ประชาชนชอบซื้อของตามร้านค้ามากกว่า
ปัจจุบันไปรษณีย์ลาวถือหุ้นโดยเอกชน 51% รัฐบาล 49 % มีพนักงาน 2,200 คน โดยบริษัทเอกชนดังกล่าวคือ บริษัทเอเชียการลงทุนและบริการ หรือ AIF กรุ๊ป นอกจากถือหุ้นในไปรษณีย์ลาวแล้ว ยังร่วมลงทุนกับ แพลช เพื่อทำตลาดในสปป.ลาว รวมถึงยังลงทุนในกิจการอื่นๆอีกหลายกิจการ อาทิ ธุรกิจพลังงาน ,สถานีชาร์จไฟฟ้า, ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือแบรนด์ BEST ให้บริการในเวียงจันทน์ ธนาคาร และ เหมืองคริปโต เป็นต้น