posttoday

บลูบิค ขยายธุรกิจเวียดนามตั้งเป้ารายได้ 50 ล้านบาทภายในปี 2566

10 มกราคม 2566

หลังรัฐบาลเวียดนามประกาศแผน Digital Transformation อย่างจริงจัง พร้อมผลักดันการใช้งานระบบเครือข่าย 5G จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจอันดีของบลูบิค ที่จะเข้าไปรุกตลาด

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ปรึกษาชั้นนำผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน  แบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้ารุกตลาดในประเทศเวียดนาม ด้วยการตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท บลูบิค (เวียดนาม) จำกัด เมื่อเดือน พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา เพื่อรับความต้องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในเวียดนามที่มีอัตราการเติบโตสูง หลังรัฐบาลเวียดนามประกาศแผนพัฒนา Digital Transformation อย่างจริงจัง พร้อมผลักดันการใช้งานระบบเครือข่าย 5G  โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ภายในปี 2566

 

“1 ปีที่ผ่านมา บลูบิคมีการขยายตลาดสู่ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในประเทศอังกฤษ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จนมาถึงประเทศเวียดนาม โดยGDP ของประเทศเวียดนามในปี 2565 เติบโตถึง 8.02% นอกจากนี้ การสนับสนุนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันจากภาครัฐที่มีเป้าหมายนำเทคโนโลยีและดิจิทัลเข้าไปพัฒนาระบบของทุกอุตสาหกรรม รวมถึงการขยายเครือข่ายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตระดับครัวเรือนให้ครอบคลุม 80% ของประเทศนั้น จะเป็นกลไกสำคัญที่กระตุ้นให้ความต้องการนำเทคโนโลยีไปใช้งานทั้งภาครัฐและเอกชนในเวียดนามเป็นไปอย่างน่าสนใจ”   
 

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ทำศึกษาโอกาสทางธุรกิจในประเทศเวียดนาม ผ่านการรับงานในโครงการออกแบบสถาปัตยกรรมระบบให้กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง พบว่าประเทศเวียดนามยังมีความต้องการในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันอีกมากจากปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐและภาคเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสของบริษัทฯในการเข้าไปจับตลาดในประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะบริการส่วนงานด้านพัฒนาซอฟต์แวร์และระบบดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งอยู่ภายใต้หน่วยงาน Digital Excellence & Delivery อีกทั้งการเข้าซื้อหน่วยงาน Digital Delivery ของ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC เมื่อต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา จะสามารถรองรับความต้องการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
 

 

นายพชร กล่าวว่า จากประสบการณ์การทำงานระดับสากลของบลูบิคที่ผ่านมา ผนวกกับจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นจาก 350 คน เป็น 780 คน หลังบรรลุผลสำเร็จตามแผนการควบรวมกิจการ 2 บริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้แก่ หน่วยธุรกิจของ MFEC ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และดิจิทัลแพลตฟอร์ม และบริษัท อินโนวิซ โซลูชั่นส์ จำกัด (Innoviz Solutions) ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญการวางระบบ Microsoft Dynamics 365 - ERP    อันดับหนึ่งของไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมในการให้บริการและรุกตลาดเวียดนามอย่างจริงจัง และเชื่อมั่นว่าการขยายธุรกิจในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนรายได้จากตลาดต่างประเทศของบริษัทฯ ที่คาดว่าจะมีสัดส่วน 10 - 20% ของรายได้รวมในปี 2566

 

สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2565 (YoY) บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 425 ล้านบาท เติบโตขึ้นราว 115% และมีกำไรสุทธิแตะ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 119% โดยมีรายได้จากต่างประเทศมากกว่า 42 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนราว 10%       ของรายได้รวม ซึ่งการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 ไตรมาส ผนวกกับยอดรอรับรู้รายได้จากแบ็คล็อก (Backlog) สะสมอีก 431 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของบริษัทฯ และความสำเร็จจากการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ 3 ปี     ที่ต้องการเติบโตอย่างน้อยปีละ 70% อย่างต่อเนื่อง