กองสลากฯ เตรียมแก้ กม.ขยายบทลงโทษสื่อ โฆษณาสลากออนไลน์

นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล(สำนักงานกองสลากฯ) เปิดเผยกับโพสต์ทูเดย์ ว่า ขณะนี้สำนักงานกองสลากฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการแก้กม.เพื่อขยายบทลงโทษ การโฆษณา หรือนำเสนอเนื้อหารายได้ที่เกี่ยวกับสลากกินแบ่งรัฐบาล สลากออนไลน์/ลอตเตอรี่ออนไลน์ ของสื่อสารมวลชน ซึ่งการแก้กม.ต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะต้องดำเนินงานอย่างไร ทำให้ขณะนี้ ยังไม่มีรายละเอียดของตัวกม. เนื่องจากเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาดำเนินการ

ส่วนเมื่อวานนี้(26ม.ค.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ส่งหนังสือถึงผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ให้ระงับการโฆษณาหรือนำเสนอเนื้อหารายการเกี่ยวกับสลากกินแบ่งรัฐบาล สลากออนไลน์/ลอตเตอรี่ออนไลน์นั้น กสทช. คงพิจารณาแล้วว่า ควรออกแนวทางปฏิบัติ ที่ควรจะเป็น ให้หน่วยงานสื่อฯภายใต้กำกับได้ปฎิบัติตาม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งแนวทางดังกล่าวของกสทช. ล่าสุดนี้ อาจทำให้สำนักงานฯ ไม่จำเป็นต้องปรับแก้กม.แล้วก็ได้ 
 

ก่อนหน้านี้ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล(กองสลากฯ) กล่าวว่า ยอมรับว่าปัจจุบัน ไม่ได้มีกม.รองรับเรื่องการเอาผิดสื่อฯที่มีการโฆษณา หรือนำเสนอเนื้อหารายการเกี่ยวกับสลากกินแบ่งรัฐบาล สลากออนไลน์/ลอตเตอรี่ ปัจจุบันมีเพียงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่รองรับไว้เมื่อ 8 ก.ค.2551 ที่สำนักงานสลากฯ สามารถดำเนินกิจกรรมในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน โดยมิได้เป็นไปเพื่อจูงใจให้ซื้อ สลากกินแบ่งรัฐบาล 

แม้สำนักงานสลากฯ มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็ไม่สามารถโฆษณาและประชาสัมพันธ์เพื่อจูงใจให้ประชาชนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ และมาตรา 39/2 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 และที่แก้ไขเพิ่มเติม บัญญัติห้ามมิให้มีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแก่บุคคล ซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์

ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่า สลากฯเป็นการพนัน จึงต้องการให้คนไทยละเลิก อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ที่จากเดิมมีสำนักงานฯ เพียงรายได้ที่เป็นเจ้าของสลากฯ แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการแพลตฟอร์มของเอกชน เข้ามาขายสลากดิจิทัลอยู่ในตลาด จึงทำให้ไม่มีกม.มาครอบคุมดูแลในส่วนนี้  จึงเตรียมเสนอเข้าการพิจารณาของครม.ใหม่ว่า การห้ามโฆษณา และประชาสัมพันธ์ ต้องบังคับใช้กับทุกหน่วยงาน ไม่ใช่เพียงสำนักงานกองสลากฯเท่านั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนเหมือนกับกม.การห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือ บุหรี่