ดีอีเอสเอ็มโอยูภาคธนาคารเตือนภัยมิจฉาชีพผ่านโมบายล์ แบงก์กิ้ง
สมาคมธนาคารไทยเผยหลังกฎหมายปราบอาชญากรรมออนไลน์บังคับใช้ สามารถปราบบัญชีม้าได้ 1,000 บัญชี เดินหน้าเอ็มโอยู ดีอีเอส-ธปท. เตือนภัยมิจฉาชีพผ่านแอปธนาคาร
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอีเอส ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(เอ็มโอยู) กับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สมาคมธนาคารไทย เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์ โดยแจ้งเตือนภัยการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์ และข่าวปลอม ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางการเงิน หรืออาชญากรรมทางการเงินในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้รับทราบและเท่าทันต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้กับประชาชน
ทั้งนี้ เชื่อว่าปัญหาอาชญากรรมออนไลน์จะดีขึ้น หลัง พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 บังคับใช้ แต่จะให้หมดไป เลยคงเป็นเรื่องยาก จึงต้องเร่งให้ความรู้และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน ซึ่งการทำธุรกรรมผ่านโมบายล์แอป ช่วยอำนวยความสะดวกแต่ก็ต้องมีความปลอดภัยด้วย การเพิ่มมาตรการสแกนใบหน้า พิสูจน์ยืนยันตัวตนเมื่อต้องโอนเงิน 5 หมื่นบาทขึ้นไป อาจจะทำให้ประชาชนไม่สะดวกบ้าง แต่ก็จำเป็นเพื่อป้องกันปัญหา
ด้านนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอีเอส กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลต้องการให้การใช้งานระบบดิจิทัลมีความน่าเชื่อถือ การร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทยที่มีสมาชิก 15 ธนาคาร และธนาคารออมสิน รวมเป็น 16 ธนาคารจะช่วยให้ลูกค้า ได้รับการแจ้งเตือนภัยผ่านแอปฯ โมบายล์ แบงก์กิ้งได้ ซึ่งทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้มีการติดตามและรวบรวมข้อมูลในเรื่องนี้ตลอดเวลาจะช่วยให้ประชาชนเข้าภึงข้อมูลได้มากขึ้น และในอนาคตจะมีการนำแมชชีนเลิร์นนิ่ง และเอไอ มาช่วยในการตรวจจับข้อมูลและการหลอกลวงผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ด้วย
ขณะที่นายยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยใช้โมบายล์ แบงก์กิ้ง จำนวน 130 ล้านบัญชี จำนวน 30 ล้านคน โดยสมาคมธนาคารไทยตระหนักถึงผลกระทบเรื่องภัยทางการเงินออนไลน์มีความรุนแรงมากขึ้น จึงพร้อมร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย( ธปท.) และ หน่วยงานรัฐ ยกระดับการจัดการภัยทางการเงินให้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการเตือนภัยผ่านแอปฯของธนาคารต่างๆ กระจายความรู้ความเข้าใจสู่ประชาชน เพื่อให้กิดความตระหนัก จะช่วยลดปัญหาลงได้
ทั้งนี้ หลังจาก หลัง พ.ร.ก. ปราบปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีบังคับใช้ ก็สามารถจัดการปัญหาบัญชีม้าได้มากกว่า 1,000 บัญชีแล้ว และในอีก 1 เดือนข้างหน้า เมื่อระบบเชื่อมโยงข้อมูลของธนาคารมีความสมบูรณ์มากขึ้นจะช่วยให้การตรวจสอบการโอนเงินไปยังบัญชีม้าลำดับที่สาม สี่ หรือห้า ทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นส่งผลให้มิจฉาชีพทำงานยากขึ้น