posttoday

ภาคธุรกิจ ผวาม็อบ ฉุดการท่องเที่ยวชะงัก

13 กรกฎาคม 2566

ธุรกิจภาคท่องเที่ยว ประสานเสียง ม็อบลงถนน ประท้วง "ปมพิธา" ทำลายบรรยากาศ ฉุดท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวชะงัก วอนอยากเห็นการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ชี้ ยิ่งล่าช้า ยิ่งกระทบเศรษฐกิจ

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า การชุมประท้วงทางการเมือง จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวจะไม่เชื่อมั่น เกิดความกังวลถึงความปลอดภัยในไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเอเชีย เช่น นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ที่มักกังวลในเรื่องเหล่านี้ ขณะที่ภาคเอกชนไม่อยากเห็นภาพความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆให้หยุดชะงัก ซึ่งจะส่งผลเสียต่อภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจไทย พร้อมเรียกร้องอยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อมาบริหารประเทศโดยเร็ว 

 

"ภาคธุรกิจอยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพราะยิ่งยืดเยื้อมากเท่าไร กระส่งผลเสียต่อภาคธุรกิจ ปัญหาทางการเมือง ทำให้เกิดการลงถนน ชุมนุมประท้วง ภาพที่สื่อออกไปจะสร้างความระแวงด้านความไม่ปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวดต่างประเทศ"  นางมาริสา กล่าว


เช่นเดียวกับ นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า กังวลว่า การชุมนุมประท้วงจะเกิดสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวให้หยุดชะงัก

 

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า หากการเลือกนายกรัฐมนตรี ยืดเยื้อ ย่อมมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล หมายถึง นโยบายในการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวไทยในภาพที่ต้องใช้งบประมาณ ทั้งด้านการพัฒนา supply และ การกระตุ้น demand รวมถึงงบประมาณปี 2567 ที่อาจต้องยืดเยื้อออกไป ย่อมมีผลต่อภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมทั้งระบบ ภาคการท่องเที่ยวต้องมีผลกระทบไม่มากก็น้อยตามมา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ขณะที่ นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า อยากให้การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเดินหน้าขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว ซึ่งนายกฯ หรือโฉมหน้ารัฐบาลใหม่จะเป็นใครก็ได้ เพราะเอกชนทำงานได้กับทุกพรรคทุกรัฐบาล แต่สิ่งที่เอกชนห่วงคือ การมีมวลชนลงถนนเพื่อประท้วง ซึ่งจะทำลายบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวไทยที่ดีให้หายไป