การเมือง ฉุดความเชื่อมั่นผู้บริโภคก.ค.ดิ่งลงในรอบ 14 เดือน
หอการค้าไทย ชี้ ประชาชนกังวลความไม่แน่นอนทางการเมือง-รัฐบาลใหม่ไร้เสถียรภาพ ฉุดความเชื่อมั่นลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน เสี่ยงทุบจีดีพีปีนี้ลดลงเหลือ 3.-3.% จาก 3.5% หวังได้รัฐบาลไม่เกินต้นก.ย.นี้
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึง ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคม 2566 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงทอยู่ที่ระดับ 55.6 จาก 56.7 ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 40.7 ลดลงจาก 41.6 และดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตอยู่ที่ 62.8 ลดลงจาก 63.9 ซึ่งการปรับตัวลดลงทุกรายการ และเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 เป็นต้นมา
เนื่องจาก ผู้บริโภครู้สึกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล และเสถียรภาพทางการเมือง หลังการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและในอนาคค ทำให้เกิดการชะลอการจับจ่ายใช้สอย เพื่อรอดูความชัดเจน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวลดลง ทุกภูมิภาค นอกจากนี้ ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่ยังทรงตัวสูง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า รวมทั้งกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลลบต่อการส่งออกของไทย ทำให้การส่งออกในช่วงนี้หดตัวลง และมีผลกระทบในเชิงลบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทุกภูมิภาค ขณะที่การท่องเที่ยวไม่ได้เป็นแรงสนับสนุนเศรษฐกิจมากนัก เนื่องจากช่วงไตรมา 3 ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว
“ความเชื่อมั่นที่ลดลง ปัจจัยสำคัญมาจากปัญหาด้านการเมืองที่ไม่ชัดเจน คนเริ่มสับสนไม่รู้จะตั้งรัฐบาลได้เมื่อไร และรัฐบาลจะมีเสถียรภาพมั้ย เพราะการทำธุรกิจขาดแนวโน้มนโยบาย และแก้ไขเศรษฐกิจประเทศ รวมถึงขาดเม็ดเงินหมุนเวียนเดินหน้าเศรษฐกิจ ซึ่งเริ่มเห็นสัญญานเหล่านี้ตั้งแต่มิ.ย.-ก.ค.ที่ผ่านมา การบริโภค การซื้อที่อยู่อาศัย หรือรถคันใหม่ ไม่โดดเด่น ปรับตัวลดลงทุกภูมิภาค เมื่อไม่เชื่อมั่นคนก็ระมัดระวังการจับจ่าย ปัจจัยเหล่านี้เสี่ยงทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ ขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ที่ 3.5% หรือโตเพียง 3-3.3%” รศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทย ยังเชื่อมั่นว่า จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ทันภายในปลายเดือนสิงหาคม หรือต้นกันยายนนี้ และหากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วตามที่คาด และรัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพ คาดว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางหอการค้าไทย จะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยใหม่อีกครั้ง