posttoday

กนป.เคาะแก้ปาล์มทั้งระบบ สางปมกดราคารับซื้อ-สกัดปาล์มข้ามชาติ

07 มิถุนายน 2567

เปิดมาตรการแก้ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ภูมิธรรม เรียกถกกนป.นัดแรก ปรับส่วนผสมไบโอดีเซล ตั้งอนุกรรมการสางปมลานเทกดราคารับซื้อ ควบคู่สกัดปาล์มเถื่อนข้ามชาติ ธรรมนัส มั่นใจทุกปัญหาเกษตรชาวสวนปาล์มจะได้รับการแก้ไขและพอใจราคาใกล้แตะ5บาท

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ผลผลิตและราคาปาล์มน้ำมัน 1/2567 โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองประธานฯเข้าร่วมเพื่อแก้ปัญหาการราคาปาล์มตกต่ำ

ทั้งนี้ที่ประชุมพิจารณาข้อเสนอการปรับส่วนผสมไบโอดีเซล บี-100 ในน้ำมันดีเซล จากเดิม 7 เปอร์เซ็นต์ หรือ บี-7 เป็น 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อช่วยแก้ไขราคาปาล์มตกต่ำด้วย

ร้อยเอกธรรมนัส เปิดเผยก่อนการประชุมว่า วันนี้ จะนำเสนอข้อเรียกร้องชาวสวนปาล์มที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งเวทีที่อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่และเวทีที่ตนเองได้ลงพื้นที่ เข้าสู่วาระการประชุม 

ส่วนเกิดปัญหาการกดราคาปาล์มของโรงสกัด หรือลานเทไม่รับซื้อปาล์มจากเกษตรกรจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว ส่วนคณะทำงานชุดเดิมที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานจะเป็นผู้ดูแลเองเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา ที่จะต้องมีการตรวจสอบการรับซื้อ ซึ่งราคาปาล์มในปัจจุบันที่ใกล้แตะ 5 บาทต่อกิโลกรัม  ถือว่าทำงานได้ถูกทิศทางแล้ว แต่ก็ยังต้องเดินหน้าต่อ 

ส่วนสกัดกั้นปาล์มเถื่อนจากต่างชาติโดยชุดปฏิบัติการณ์พิเศษพญานาคราชในสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถจับกุมได้ และเพิ่มมาตรการให้มีความเข้มงวดโดยได้ขอความร่วมมือจากฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งได้มีการประสานไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 ให้มีการเพิ่มมาตรการควบคุมตรวจสอบ และหากพบผู้กระทำความผิด ก็จะต้องจับกุมทันที 
 

การประชุมวันนี้ มีวาระการหารือเรื่องเพื่อทราบ รายงานสถานการณ์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ผลการลงพื้นที่ตรวจรับซื้อปาล์มน้ำมัน แนวทางการแก้ไขปัญหาตกต่ำ ส่วนเรื่องพิจารณาปรับเพิ่มความถี่ในการแจ้งข้อมูลรับซื้อ ผลิต และราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์มของโรงงานสกัด โครงการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มปี 2567 และทบทวนคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการคณะทำงานขับเคลื่อนกลไกบริหารจัดการ เพื่อแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม 5 จังหวัดภาคใต้ 

แก้ไขปัญหาปาล์มทั้งระบบ

นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ กรรมการในคณะกรรมการนโยบายปาล์มนํ้ามันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยว่า ได้เสนอในที่ประชุมในการวางแผนแก้ไขปัญหาปาล์มทั้งระบบ ไม่ใช่ให้มีการแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดปัญหาราคา-ผลผลิตปาล์มน้ำมัน เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการประเมินผลผลิตอยู่แล้ว ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ นอกจากนี้ ยังต้องการให้มีการตรวจสอบโรงงานสกัดที่มีรายงานว่ามี 100 โรงสามารถรองรับผลผลิตได้จริงหรือไม่

ปัญหาราคาปาล์มส่วนหนึ่งมาจากโรงสกัดไม่สามารถรองรับผลผลิตได้ รองรับได้เพียง 50% ขณะที่พบว่าโรงสกัดได้ขอส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในการขยายกำลังการผลิตจาก 45 ตันต่อวัน เป็น 50 ตันต่อวัน ดังนั้น จึงเห็นควรว่าต้องมีการตรวจสอบการสกัดของโรงงานสกัดว่ามีการดำเนินการจริงหรือไม่ 

ทั้งนี้ เพื่อความเป็นธรรมก็ต้องการให้เกษตรกรมีการตัดปาล์มที่มีคุณภาพด้วย เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ซึ่งพื้นที่ปลูกปาล์มทั้งประเทศมีอยู่ 6.3 ล้านไร่ ปริมาณผลผลิตต่อปีเฉลี่ย 18-19 ล้านตัน ดังนั้น การตัดปาล์มก็ต้องการให้เกษตรกรตัดปาล์มที่สุก มีคุณภาพ รวมไปถึงโรงงานสกัดก็ต้องรับซื้อปาล์มที่มีคุณเช่นกัน พร้อมกับติดตามน้ำมันปาล์มเพื่อเช็กปริมาณที่แท้จริงเพื่อไม่ให้กระทบราคาปาล์มในประเทศ ขณะนี้ราคาอยู่ที่ 30 บาทต่อกิโลกรัมซึ่งเป็นราคาดีที่ส่งออก

ส่วนราคารับซื้อปาล์มน้ำมันปัจจุบันขยับขึ้นมาก เฉลี่ยรับซื้อ 4.50-5 บาทต่อกิโลกรัม แต่ก็เป็นเพียงบางโรงและรับซื้อปาล์มที่มีคุณภาพ แต่บางโรงสกัดก็มีรับซื้อต่ำกว่านี้ ทั้งนี้ ก็จะส่งให้กรมการค้าภายในเข้าไปตรวจสอบอย่างใกล้ชิด

สั่งรับซื้อปาล์ม4.50บาท

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า เมื่อวันที่ 5 คณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มได้ประชุมพิจารณาสถานการณ์ราคาและอัตราสกัดน้ำมันปาล์ม ร่วมกับผู้แทนเกษตรกร นายกสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และผู้แทนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม (จ.สุราษฎร์ธานี กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราข และตรัง) พบว่าราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันหน้าโรงงานทุกแห่ง วันที่ 4 มิ.ย. 67 ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 4.50-5.20 บาท และอัตราสกัดน้ำมันปาล์มทั่วประเทศมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ดังนั้น คณะอนุกรรมการจึงมีมติ ดังนี้

1.ขอให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดำเนินการดังนี้ ปรับราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันหน้าโรงงานสูงขึ้น จากไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.50 บาท เป็นไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.80 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราสกัดน้ำมันปาล์มในภาพรวมทั้งประเทศ และหากผลผลิตสุกเต็มที่มีคุณภาพดี ให้ปรับราคาเพิ่มขึ้นสอดคล้องอัตราสกัดน้ำมันปาล์ม โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 67 

แจ้งข้อมูลต่อกรมการค้าภายในเป็นประจำทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุด) ประกอบด้วย ข้อมูลการผลิตและจำหน่าย ได้แก่ ปริมาณรับซื้อผลปาสม ปริมาณผลปาล์มที่ใช้ผลิต ปริมาณการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ อัตราสกัดน้ำมันปาล์ม ราคารับซื้อผลปาล์ม ราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ ข้อมูลแผนปิดซ่อมบำรุง และข้อมูล ปริมาณรถบรรทุกติดคิว โดยแจ้งผ่าน Link QR Code ด้านล่าง ให้กรมทราบ ภายในเวลา 10.00 น. ของวันถัดไป

2.คณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มประชุมติดตามสถานการณ์การผลิตและการตลาด โดยเฉพาะด้านราคาและอัตราสกัดน้ำมันปาล์มเป็นประจำทุกสัปดาห์ (ทุกวันอังคาร) ในการนี้จึงขอให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทุกรายดำเนินการตามมติคณะอนุกรรมการดังกล่าว โดยกรมได้มีหนังสือถึงสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม เพื่อประสานสมาชิกขอให้ดำเนินการตามมติคณะอนุกรรมการด้วยแล้ว

ทั้งนี้ หากมีการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันในราคาไม่สอดคล้องกับอัตราสกัดน้ำมันปาล์มที่แท้จริงและราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ อาจเข้าข่ายเป็นการจงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาสินค้า มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 29 และโทษตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าบริการ พ.ศ. 2542