posttoday

เกือบ 5 หมื่นล.หากประชาชนนำเงิน 10,000 เข้า เซเว่นฯ 30%

28 กันยายน 2567

ประเมินการปรับระบบจ่ายเงินของ เซเว่นฯ มาใช้การสแกนผ่านคิวอาร์โค้ด พร้อมเพย์ ทั่วประเทศ มีโอกาสรับส่วนแบ่งจาก เม็ดเงิน 145,000 ล้านบาท จากโครงการแจกเงิน 10,000 บาทให้กลุ่มเปาะบางและผู้พิการจำนวน 14.55 ล้านคน เพียง 30 % เกือบ 5 หมื่นล้านบาท

ทันทีที่มีการแจกเงินสด 10,000 บาท เห็นได้ชัดว่า ร้านค้า ตลาดสด ต่างคึกคัก ขณะที่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น บังเอิญเกิดปรากฎการณ์ที่หลายคนรอคอย และไม่คิดว่าจะมี คือการสแกนจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดพร้อมเพย์ โดยอยู่ระหว่างการทยอยเปิดระบบก่อน 480 สาขา และจะเปิดให้ครบ 14,854 สาขา ทั่วประเทศ (ตัวเลข ณ สิ้นไตรมาส 2/67) ภายในเร็วๆนี้

การปรับระบบการจ่ายเงินจากเดิมที่การสแกนจ่ายของเซเว่นฯ ต้องผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูมันนี่ อย่างเดียวมาเป็น การสแกนจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดพร้อมเพย์ เหมือนกับร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ทำให้ความสะดวกในการใช้จ่ายผ่านเซเว่นฯมีโอกาสรองรับเม็ดเงินที่ภาครัฐทุ่มลงมา ผ่านการจ่ายเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปาะบางและผู้พิการจำนวน 14.55 ล้านคน เม็ดเงินสูงถึง 145,000ล้านบาท อย่างแน่นอน 

ทั้งนี้ หากประเมินจากจำนวนสาขา ทั่วประเทศที่มีถึง 14,854 สาขา โดยใช้สมมุติฐานว่า หากประชาชนมีการใช้จ่ายเงิน 10% ,20% และ 30% ของเงิน 10,000 บาท ที่ได้ เซเว่น อีเลฟเว่น จะมีรายได้จากโครงการนี้เท่าไหร่ และเฉลี่ยต่อละสาขาเท่าไหร่

ใช้จ่ายผ่านเซเว่น  10% เท่ากับ 14,550 ล้านบาท
เฉลี่ยรายได้ต่อสาขา 9.79 แสนบาท  

ใช้จ่ายผ่านเซเว่น  20%  เท่ากับ  29,100 ล้านบาท 
เฉลี่ยรายได้ต่อสาขา 1.96 ล้านบาท 

ใช้จ่ายผ่านเซเว่น  30% เท่ากับ 43,650 ล้านบาท
เฉลี่ยรายได้ต่อสาขา 2.94 ล้านบาท 

เกือบ 5 หมื่นล.หากประชาชนนำเงิน 10,000 เข้า เซเว่นฯ 30%
 

สำหรับการจ่ายเงิน 10,000 บาท ของรัฐบาล แบ่งเป็นวันแรก 25 ก.ย.67 สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้พิการ และผู้ถือบัตรสวัสดิการของรัฐ ตามหมายเลขบัตรประชาชนเริ่มต้นด้วยเลข 0  รวมจำนวน 3,167,565 คน

วันที่ 26 ก.ย.67 จะโอนเงินให้สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1, 2 และ 3 จำนวน 4,505,454 คน 

วันที่ 27 ก.ย.67 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 4, 5, 6 และ 7  จำนวน 4,511,025 คน 

วันสุดท้ายวันที่ 30 ก.ย.67 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8 และ 9 จำนวน 2,254,584 คน