posttoday

คลัง คาดยอดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ แตะ 25 ล้านคน

21 พฤศจิกายน 2567

จุลพันธ์ เร่งปรับเกณฑ์ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ เข้มคัดกรองคนจนไม่จริง ก่อนเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ 31 มี.ค.68 คาดคนแห่ลงทะเบียน 25 ล้านคน เผยคนเก่าที่ได้รับสิทธิอยู่แล้วไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ แนะคนยังไม่ได้ยืนยันตัวตน รีบดำเนินที่ธนาคารกรุงไทย ก่อน 26 ธ.ค.นี้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังจากการคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อทบทวนหลักเกณฑ์การลงทะเบียนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ และหารือแนวทางการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ ว่า วันนี้ที่ประชุมได้มีการอนุมัติงบประมาณบางส่วน เพื่อใช้ดำเนินการลงทะเบียน จากที่คาดว่าจะใช้งบประมาณดำเนินการเกือบ 6 หมื่นล้านบาท และกำหนดให้มีการเปิดลงทะเบียนรอบโครงการสวัสดิการฯรอบใหม่ก่อนวันที่ 31 มี.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนมาลงทะเบียนรอบใหม่ประมาณ 25 ล้านคน ใกล้เคียงกับการลงทะเบียนรอบก่อนที่จำนวน 20 กว่าล้านคน ทั้งนี้ประเมินว่าจะใช้เวลาดำเนินการทั้งหมดราว 4-5 เดือน


หากเราสามารถดำเนินการได้เสร็จช่วงกลางเดือนก.ค.68 จะทันช่วงงบประมาณเข้าสู่สภาฯ เราจะได้จัดสรรงบประมาณได้เพียงพอ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณดำเนินการเกือบ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเราเดทไลน์จะเปิดลงทะเบียนให้ได้ก่อน 31 มี.ค. 2568 แต่ถ้าทางนี้ทำได้เร็วก็อาจเริ่มดำเนินการได้

      สำหรับการลงทะเบียนจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรก คือ กลุ่มเดิมผู้มีสิทธิอยู่แล้ว จำนวน 14.5 ล้านคน ซึ่งในกลุ่มนี้มีอยู่ประมาณ 7 แสนคน ที่ลงทะเบียนและผ่านเกณฑ์แล้วแต่ไม่มาดำเนินการการยืนยันตัวตน (e-KYC) ตามที่กำหนด ส่งผลให้รัฐบาลไม่สามารถแจกเงินได้ วันนี้จึงมีมติคนกลุ่มนี้ให้ไปตรวจสอบสิทธิของท่านผ่านเว็บไซต์ https://welfare.mof.go.th ส่วนคนเก่าที่ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสมบูรณ์แล้ว  ไม่ต้องดำเนินการเพื่อลงทะเบียนใหม่ สามารถรับสิทธิได้อัตโนมัติ 

ถ้าท่านพบว่าเป็นผู้ที่มีสิทธิ แต่ยังไม่ได้ทำการยืนยันตัวตน ให้รีบเดินทางไปที่ธนาคารกรุงไทย ย้ำว่าเป็นธนาคารกรุงไทยแห่งเดียวเท่านั้น เพื่อยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นการลงทะเบียนย้อนหลัง เพราะว่าไม่ใช่ความผิดพลาดของทางภาครัฐ แต่เกิดจากท่านมาลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ ซึ่งยังเหลือเวลาอีก 1 เดือน ถ้าท่านไม่กลับมายืนยันตัวตน เมื่อถึงวันที่ 26 ธ.ค.2567 ก็ถือว่าสละสิทธิ์

      กลุ่มที่สอง อีก 10 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ที่ยังไม่เคยได้สิทธิมาก่อน โดยหลังการปิดให้ยืนยันตัวตนแล้ว รัฐบาลจะนำทั้งกลุ่มเดิมผู้มีสิทธิอยู่แล้วจำนวน 14.5 ล้านคนมาคัดกรองคุณสมบัติตามเกณฑ์ใหม่ หากคุณสมบัติไม่อยู่ในเกณฑ์ก็จะหลุดจากสิทธิไป เนื่องจากเศรษฐกิจดีขึ้น หลังมีมาตรการทำให้ประชาชนบางกลุ่มหลุดพ้นจากเกณฑ์ความจน และเปิดให้กลุ่มใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติตรวจสอบเพื่อรับสิทธิ เมื่อทั้งสองกลุ่มนี้ดำเนินการตรวจสอบแล้วก็จะถือว่าเป็นกลุ่มใหม่ที่จะได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการรอบใหม่ 

 

     อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้เสนอให้มีการทบทวนหลักเกณฑ์ในการเข้าสู่ผู้สิทธิ หลังหลักเกณฑ์เก่าได้ใช้มาแล้ว 2 ปี จึงเห็นว่าควรมีการทบทวนใหม่ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ เช่น ปรับเกณฑ์รายได้รวมทั้งครอบครัว หรือ เกณฑ์การถือครองสินทรัพย์ที่ดิน ที่ยังเป็นปัญหาอยู่จนขณะนี้ และ พันธบัตร ต่างๆ รวมถึงการให้ค่า ก๊าซหุงต้ม ค่าเดินทาง ที่พบว่าไม่ใช่ทุกคนที่ได้ใช้ประโยชน์เต็มจำนวนหรือไม่ จึงต้องไปตรวจเช็คกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใหม่ จึงได้มอบหมายให้อนุกรรมการฯด้านนโยบายโดย สศค.นำกลับไปทบทวน เพื่อมาเสนอคณะกรรมการฯ ให้มีทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดต่อไป

ทางเลือกหมายถึง จะเลือกใช้เกณฑ์ไหนเพื่อดึงคนเข้าสู่สิทธิสวัสดิการของรัฐ โดยจะเลือกใช้เกณฑ์เก่าเลย หรือเกณฑ์ใหม่ อันไหนจะมีประโยชย์ มีข้อดีข้อด้อยอย่างไร แล้วนำมาชั่งน้ำหนักกันอีกครั้ง นอกจากการให้ไปทบทวนเกณฑ์แล้ว และยังเสนอให้ดูเรื่องภาระด้านงบประมาณด้วย และนอกการช่วยเรื่องค่า ค่าน้ำค่าไฟ แก๊สแล้ว เราจะพิจารณาเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงานด้วยได้มั้ย ซึ่งก็เป็นโจทย์ให้คณะทำงานไปศึกษาดู

 

     นอกจากนี้ ยังให้สศค.ไปดูถึงผลจากมาตรการรัฐอื่นๆที่ช่วยเหลือไปแล้วมาประกอบด้วย เช่น แจกเงินหมื่น ว่าได้ยกระดับความเป็นอยู่ชีวิตประชาชนได้มากน้อยเพียงไร ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาประเมินประมาณ 1 เดือนถึงส่งกลับมาให้คณะกรรมการฯพิจารณาได้ 

 

      นายจุลพันธ์ ยังระบุด้วยว่า หลังการลงทะเบียนแล้วเสร็จในเดือนมี.ค.68 ทุก 8 เดือนรัฐบาลจะมีการคัดกรองคุณสมบัตรซ้ำอีกเรื่อย เพื่อเป็นการคัดกรองคนจนไม่จริงออกไปเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกคน