NT ควบรวม 4 ปี รายได้หดจากแสนล้านเหลือ 8.4 หมื่นล้าน
NT เผยกำไร 11 เดือนแรกปี 67 อยู่ที่ 2 ล้านบาท ดีเดย์โครงสร้างองค์กรใหม่ 27 ธ.ค.นี้ มั่นใจปี 68 รายได้เพิ่มจากบริการ Gateway ระบบดาวเทียมวงโคจรต่ำ การใช้ประโยชน์อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจดิจิทัลและ ICT Solution
พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า ผลประกอบการ NT ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้ 77,955 ล้านบาท กำไร 2 ล้านบาท คาดสิ้นปีรายได้รวม 84,963 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้ปี 2568 จะเพิ่มขึ้นจากการเปิดให้บริการ Gateway สำหรับระบบดาวเทียมวงโคจรต่ำ การใช้ประโยชน์อสังหาริมทรัพย์ การขยายตัวของธุรกิจดิจิทัลและ ICT Solution และกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่ยังสามารถเติบโตได้
สำหรับทิศทางการขับเคลื่อน NT หลังจัดทัพโครงสร้างองค์กรใหม่ในปี 2568 มีผล 27 ธ.ค. 2567 ประกอบด้วย 6 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ประจำที่และบรอดแบนด์ กลุ่มธุรกิจสื่อสารไร้สาย กลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศ กลุ่มธุรกิจดิจิทัล และกลุ่มธุรกิจ ICT Solution โดย NT ยังคงมุ่งสร้างรายได้หลักจากกลุ่มธุรกิจสื่อสารไร้สาย และกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ประจำที่และบรอดแบนด์ ซึ่งเน้นควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง my และ NT Mobile อยู่ระหว่างเร่งโอนย้ายลูกค้าไปยังคลื่น 700 MHz ขณะที่บริการวิทยุคมนาคม Trunked Radio ยังคงมีรายได้สม่ำเสมอและกำไรตามเป้า
เขากล่าวว่า ขาขึ้นคือกลุ่มธุรกิจดิจิทัลและกลุ่มธุรกิจ ICT Solution มีแนวโน้มอัตราเติบโตที่ต่อเนื่อง ซึ่ง NT ตั้งเป้าสร้างรายได้เพิ่มและเร่งการเติบโตกลุ่มดิจิทัลให้มากยิ่งขึ้น เน้นเปิดกว้างแนวทางพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนที่จะช่วยให้ NT เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและรุกตลาดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว สามารถตอบสนองทันต่อความต้องการด้านดิจิทัลที่สูงขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง
นโยบายรัฐบาลในปีหน้ามุ่งนำระบบงานขึ้นสู่คลาวด์ทั้งหมดเพื่อพัฒนาข้อมูลโอเพนดาต้าภาครัฐ จึงต้องการบริการ Migration ซึ่งเป็นโอกาสในการเติบโตของบริการคลาวด์ รวมถึงเรามีโอกาสพัฒนาความร่วมมือพันธมิตร OTT โดยใช้ศักยภาพด้านพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่เชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อตั้งแต่โครงข่ายเคเบิลใต้น้ำจนถึงการเชื่อมต่อวงจรสื่อสาร DWDM เพื่อรองรับการให้บริการ Facility สำหรับกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ข้ามชาติ Hyperscale DC หรือ Edge DC ที่สนใจลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องยุทธศาสตร์ประเทศในการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
พ.อ.สรรพชัยย์ กล่าวต่อไปถึงการดำเนินธุรกิจตลอด 4 ปีของ NT หลังควบรวมองค์กรว่าเน้นการหลอมรวมระบบงานและการจัดการภาพรวมโดยครอบคลุมการลดความเสี่ยง ลดความซ้ำซ้อน ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ ปัจจุบัน NT พร้อมก้าวสู่ปีที่ 5 โดยโครงสร้างใหม่ที่ปรับการบริหารงานองค์กรภาพรวมไม่ให้มีความซ้ำซ้อน สามารถบริหารงานและให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ บูรณาการข้อมูลและระบบงานในรูปของดาต้าแพลตฟอร์มที่มุ่งนำศักยภาพด้านบริการดิจิทัลขององค์กรมาใช้กับกระบวนการภายในของ NT มากขึ้น
ทั้งนี้ โครงสร้างดังกล่าวระยะต่อไปจะปรับกระชับยิ่งขึ้นเพื่อมุ่งสู่ปลายทางคือ Customer Centric เต็มรูปแบบ อีกทั้งรองรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ NT ที่เน้นขับเคลื่อนภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัล และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลโดยสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ NT “องค์กรแห่งชาติที่เชื่อมต่อเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อคนไทยทุกคน
อย่างไรก็ตาม โพสต์ทูเดย์ ได้หาข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า หลังควบรวมกิจการรายได้ของ NT ลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
ปี 2564 รายได้ 1.03 แสนล้านบาท กำไร 1.1 พันล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 9.1 หมื่นล้านบาท ขาดทุน 9.8 พันล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 8.7 หมื่นล้านบาท ขาดทุน 1.9 พันล้านบาท