ส่งออกปี67 โต 5.4% มูลค่ากว่า 3 แสนล้านเหรียญฯสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการส่งออกของไทยในเดือนธันวาคม 2567 มีมูลค่า 24,765.9 ล้านเหรียญสหรัฐ 853,305 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ที่ 8.7% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ 10.4% ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยการส่งออกในรูปของสกุลเหรียญสหรัฐ พุ่งทะยานสู่ระดับ 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับการส่งออกในรูปของเงินบาทก็มีมูลค่าสูงกว่า 10 ล้านล้านบาท เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน

การส่งออกในเดือนธ.ค.ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าทุนและวัตถุดิบของไทยในทุกหมวดและยังขยายตัวเกือบทุกตลาดส่งออกสำคัญ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายทางการค้าโลกในระยะข้างหน้า โดยมีการเร่งนำเข้าสินค้าของประเทศคู่ค้า เพื่อหลีกเลี่ยงผบกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ก่อนรับตำแหน่ง

ทั้งนี้ ส่งผลให้การส่งออกของไทยทั้งปี 2567 ขยายตัว 5.4% และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 5.4%

สำหรับมูลค่าการค้าในรูปเงินเหรียญสหรัฐ มีมูลค่า 24,765.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8.7% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 24,776.5 ล้านเหรียญหรัฐ ขยายตัว 14.9% ดุลการค้า ขาดดุล 10.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพรวมของทั้งปี 2567 การส่งออก มีมูลค่า 300,529.5 ล้านสหรัฐ ขยายตัว 5.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 306,809.8 ล้านเหรีญสหรัฐ ขยายตัว 6.3% ดุลการค้าของปี 2567 ขาดดุล 6,280.4 ล้านเหรียญสหรัฐมูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนธันวาคม 2567 การส่งออก มีมูลค่า 853,305 ล้านบาท ขยายตัว 7.2% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 863,930 ล้านบาท หดตัว 13.4% ดุลการค้า ขาดดุล 10,625 ล้านบาท ภาพรวมของทั้งปี 2567 การส่งออก มีมูลค่า 10,548,759 ล้านบาท ขยายตัว 7.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 10,896,480 ล้านบาท หดตัว 3.8% ดุลการค้าของปี 2567 ขาดดุล 347,721 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการส่งออกในปี 2568 คาดว่าการส่งออกทั้งปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ 2-3% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงในระดับปัจจุบัน แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ การย้ายฐานการผลิตมายังกลุ่มประเทศอาเซียนและไทยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเร่งส่งเสริมการใช้ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยเชื่อมโยงเข้ากับสินค้าส่งออกเพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้เป็นที่จดจำในระดับโลก  

ปัจจัยท้าทายจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งกระทบกับบรรยากาศการค้าโลก ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อยาวนาน และความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์และวางแผนเตรียมความพร้อมร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การค้าไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตาม และประเมินผลกระทบจากนโยบายทรัมป์มาโดยตลอดในเดือนหน้ามีแผนไปเยือนสหรัฐ พร้อมทีมผู้บริหาร ส่วนแผนรับมือเราก็นโยบายมีมาเรื่อยๆ เชื่อว่าผลกระทบทบมีทั้งบวกและลบ ทั้งกับไทยและประเทศอาเซียน
มค น่าจะขยายตัวยต่อเนื่อง ขยายตัวต่อนเองมาต่อ6 เดือนน่าจะต่อเนื่องเป็ฯเดือนที่ 7