คลัง ยังมึนปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ หลัง ยสท.เสนอเก็บ 3 อัตรา

รายงานจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบขณะนี้ยังคงไม่มีข้อสรุป เนื่องจากการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ได้เสนอให้เพิ่มอัตราภาษีจาก 2 อัตราปัจจุบัน เป็น 3 อัตรา เพื่อให้สามารถผลิตบุหรี่ราคาถูกที่ประมาณซองละ 40 บาท ซึ่งยสท.เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และลดปัญหาบุหรี่เถื่อนที่ผิดกฎหมายในประเทศได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากมองว่าในอดีตเมื่อมีการปรับราคาหรือวางแผนการตลาดใหม่ คู่แข่งในตลาดสามารถผลิตบุหรี่ราคาถูกกว่าออกมาขายได้เสมอ

นอกจากนี้ การทำบุหรี่ราคาถูกอาจไม่ช่วยลดการบริโภคบุหรี่เถื่อนตามที่ยสท.ต้องการ โดยข้อมูลจากการสำรวจของภาคเอกชนพบว่า การบริโภคบุหรี่เถื่อนในไทยปี 2567 มีสัดส่วนสูงถึง 25% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 4-6% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งการนำเสนอแผนการเก็บภาษีแบบใหม่อาจถูกมองว่าฝ่าฝืนกฎระเบียบของการค้าระหว่างประเทศภายใต้ องค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ·  ซึ่งอาจถูกฟ้องร้องหาว่าปกป้องผู้ประกอบการภายในประเทศทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม

คลังยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของยสท. เพราะมองว่ายังมีจุดอ่อน แม้จะทำบุหรี่ราคาถูกแค่ไหน คู่แข่งยังสามารถออกบุหรี่ใหม่ราคาถูกกว่าได้ และการแก้ปัญหาบุหรี่เถื่อนก็ไม่ดีขึ้น อีกทั้งอาจถูกฟ้องผิดกฎการค้าระหว่างประเทศของ WTO เรื่องการปกป้องผู้ประกอบการภายในประเทศ

สำหรับอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ในปัจจุบัน จะเก็บภาษีทั้งจากปริมาณที่ 1.25 บาทต่อมวน และจากมูลค่าของบุหรี่ โดยบุหรี่ที่ราคาซองละไม่เกิน 72 บาทจะเสียภาษี 25% ของราคาขายปลีก ส่วนบุหรี่ที่มีราคาสูงกว่า 72 บาทต่อซอง จะถูกเก็บภาษีในอัตรา 42% ของราคาปลีก บุหรี่ในตลาดส่วนใหญ่จะมีราคาซองละ 65-72 บาท หากยสท.ต้องการให้สามารถผลิตบุหรี่ราคาถูกที่ซองละ 40 บาทออกมาสู้กับคู่แข่ง และแก้ปัญหาบุหรี่เถื่อนได้ จะต้องมีการปรับลดอัตราภาษีใหม่

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังคงอยู่ในขั้นตอนพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว โดยมองว่าการปรับโครงสร้างภาษีต้องมีจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมกับลดการบริโภคบุหรี่เถื่อนได้ ส่วนจะใช้โครงสร้างภาษีหลายอัตราหรือมีอัตราภาษีเดียวยังไม่ได้ข้อสรุป

ด้านนางสาวกุลยา ตันติเตมิต อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า โครงการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ยังไม่ได้ข้อสรุป และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาหารือร่วมกันต่อไป