WashXpress เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งเบอร์ 1 ร้านสะอาดซักไทย
WashXpress ประกาศความพร้อมเตรียมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขยายธุรกิจ และมุ่งสู่การเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจร้านสะอาดซักครบวงจรของประเทศไทย
นายกวิน กลองกระโทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจร้านสะอาดซักครบวงจรของไทย ภายใต้แบรนด์ “WashXpress” ซึ่งขณะนี้ กำลังอยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์
โดยเล็งเห็นว่า นอกจากเพื่อเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสะอาดซักของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว และมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจร้านสะอาดซักครบวงจรของไทย
นายกวิน กล่าวต่อว่า WashXpress มีจุดเด่นและข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน คือ
1.ส่งมอบบริการที่มีมาตรฐานเดียวกันในทุกสาขาด้วย WASH Standard โดยมีการออกแบบรูปแบบร้านที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ให้บริการด้วยเครื่องซัก-อบผ้าคุณภาพสูงระดับอุตสาหกรรม เหมือนกันในทุกสาขา
อีกทั้งยังควบคุมคุณภาพบริการด้วยคู่มือควบคุมมาตรฐาน การจัดฝึกอบรมพนักงาน และการตรวจสอบคุณภาพร้านอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจในความสะอาด ปลอดภัย ด้วยขั้นตอนการทำความสะอาดมากกว่า 80 ขั้นตอน
นอกจากนี้ ยังมีบริการเสริม ซัก-อบ-พับ มีพื้นที่จอดรถ และศูนย์บริการลูกค้าให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงพัฒนาบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตามความต้องการของลูกค้า สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ WashXpress ในการสร้างบริการร้านสะอาดซักที่เป็นมาตราฐานเพื่อยกระดับบริการร้านสะอาดซักของไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล
2.ยกระดับประสบการณ์ร้านสะอาดซัก ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย ผ่านแอปพลิเคชัน “WashXpress” เพื่อยกระดับประสบการณ์การซักผ้าให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ทั้งการค้นหาร้านใกล้บ้าน ตรวจสอบสถานะเครื่องซัก-อบผ้าแบบเรียลไทม์
พร้อมรับการแจ้งเตือนเมื่อซักเสร็จ เช็กโปรโมชันและสิทธิพิเศษที่อัปเดตอยู่เสมอ ระบบชำระเงินแบบไร้เงินสด (Cashless Payment) ที่รองรับหลากหลายช่องทาง รวมถึงบริการฝากซัก-อบ-พับผ่านแอพพลิเคชัน
นอกจากนี้ บริษัทฯ นำระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) มาใช้รวบรวมและประมวลผลข้อมูลการใช้บริการจากทุกสาขา เพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค ปรับปรุงคุณภาพ และพัฒนาบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ WashXpress ที่ต้องการทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องง่ายด้วยการใช้นวัตกรรม
3.WashXpress สร้างความโดดเด่นด้วยโมเดลธุรกิจที่แตกต่าง เน้นการ “ลงทุน-เป็นเจ้าของ-บริหารเอง” ช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายสาขาตามรูปแบบมาตรฐาน (Standardized Format) ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอแฟรนไชส์ มีความคล่องตัวในการออกแบบและปรับเปลี่ยนโปรโมชันและการทำการตลาด มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่จากทุกสาขาที่สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาธุรกิจ
และที่สำคัญ ยังเป็นโมเดลธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้บริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่อง แตกต่างจากโมเดลธุรกิจแบบแฟรนไชส์อย่างชัดเจน
นายกวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า โมเดลธุรกิจแบบลงทุน-เป็นเจ้าของ-บริหารเอง ไม่ใช่เพียงกลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ ส่งมอบประสบการณ์การซักผ้าที่เหนือกว่า รวมทั้ง สามารถสร้างนวัตกรรมและพัฒนาบริการได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งการเลือกทำเลที่ตั้ง การออกแบบร้าน การคัดสรรเครื่องมือ หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้ เราเชื่อว่านี่คือโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนที่สุด และจะนำพา WashXpress ไปสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมร้านสะอาดซักของไทยในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน WashXpress มีร้านกว่า 500 สาขาใน 20 จังหวัดทั่วประเทศ โดยกว่า 80% หรือกว่า 400 สาขา เป็นสาขาที่บริษัทลงทุนเองทั้งหมด ช่วยสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่มั่นคง และต่อยอดด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับประสบการณ์ซักผ้าในยุคดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน WashXpress ที่มีผู้ใช้งานแล้วมากกว่า 1 ล้านบัญชี