อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์สั่งสอบสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นต่อกรุ๊ป จำกัด
หากพบมีเอี่ยวฟอกเงินให้มาเก๊า 888 พร้อมลงดาบทันที พร้อมเปิดทรัพย์สินหาแหล่งที่มาเข้าข่ายเป็นแหล่งฟอกเงินหรือไม่
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีที่ได้ปรากฎข่าวกรณีเว็บ.พนันออนไลน์ "มาเก๊า 888" ว่ามีการเชื่อมโยงไปถึงบริษัทในเครือของเป็นต่อกรุ๊ป และมีการจัดตั้งสหกรณ์เป็นของบริษัทตนเอง เกรงว่าจะมีการเกี่ยวพันกับการทำธุรกิจที่ไม่ถูกกฎหมายและเป็นแหล่งฟอกเงินของเว็บพนันออนไลน์นั้น
ขณะนี้ตนได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 ตรวจสอบถึงที่มาของการจัดตั้งสหกรณ์ที่ถูกกล่าวอ้าง คือ สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นต่อกรุ๊ป จำกัด พบว่าเป็นการจัดตั้งตามนโยบายของกรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงแรงงาน เพื่อเป็นสวัสดิการของพนักงานบริษัท และดำเนินการธุรกิจตามปกติของสหกรณ์ ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ที่รับผิดชอบดูแลสหกรณ์ดังกล่าวลงพื้นที่ตรวจสอบในเชิงลึก เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่ามีการนำสหกรณ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือไม่
ทั้งนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นต่อกรุ๊ป จำกัด จัดตั้งและได้รับจดทะเบียนสหกรณ์เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2563 โดยมีคณะผู้จัดตั้ง จำนวน 15 คน สมาชิกในระยะแรกตั้งเป็นพนักงานของบริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด ต่อมาได้มีการแก้ไขข้อบังคับขยายให้พนักงานในเครือบริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด จำนวน 37 บริษัท เข้าเป็นสมาชิก ปัจจุบัน มีสมาชิกทั้งหมด 655 คน
ผลการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นต่อกรุ๊ป จำกัด สำหรับบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 3,027,380 บาท สหกรณ์ได้รับเงินทุนภายนอกเป็นเงินอุดหนุนจากประธานกรรมการบริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด จำนวน 1,000,000 บาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในสหกรณ์ โดยไม่คิดดอกเบี้ย มีเงื่อนไขว่า เมื่อสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นต่อกรุ๊ป จำกัด มีเงินทุน และกำไรพอสมควรแล้วจะขอรับเงินอุดหนุนคืน โดยจะแจ้งให้สหกรณ์ทราบล่วงหน้า
สหกรณ์ฯ มีสินทรัพย์หมุนเวียน 2,825,366.55 บาท สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 202,013.78 บาท รวมสินทรัพย์ 3,027,380 บาท มีหนี้สินหมุนเวียน 39,003.29 บาท หนี้สินไม่หมุนเวียน 1,000,000 บาท ทุนเรือนหุ้น 1,979,500 บาท กำไรสุทธิประจำปี 2564 จำนวน 8,876.71 บาท รวมทุนของสหกรณ์ 1,988,376.71 บาท
และดำเนินธุรกิจ 2 ด้าน ได้แก่ ด้านสินเชื่อให้สมาชิกกู้ยืม จำนวน 14 ราย เป็นจำนวนเงิน 1,289,967.89 บาท และรับเงินฝากจากสมาชิก จำนวน 1 ราย เป็นจำนวนเงิน 28,000 บาท ทั้งนี้ สหกรณ์สามารถจัดทำและปิดบัญชีได้เป็นปัจจุบัน โดยใช้โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีการกำหนดข้อบังคับและระเบียบฯ ที่เกี่ยวข้องขึ้นถือใช้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ และข้อบังคับ
จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าสหกรณ์ดังกล่าวมีการดำเนินงานกับสมาชิกตามปกติ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทต้นสังกัดแต่อย่างใด เว้นแต่เงินอุดหนุนซึ่งได้รับจากประธานกรรมการบริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด จำนวน 1,000,000 บาท ซึ่งสหกรณ์ลงบัญชีไว้เป็นรายการหนี้สินไม่หมุนเวียน แต่เนื่องจากทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ไม่ถึง 2 ล้านบาท จึงไม่ต้องมีการรายงานธุรกรรมต่อสำนักงาน ปปง.
ทั้งนี้ที่ผ่านมา กรมฯ ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจหลักในการแนะนำส่งเสริม และการกำกับดูแลสหกรณ์ให้ปฏิบัติตามกฎหมายสหกรณ์และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ลงนาม MOU ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 ดำเนินการอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์ผู้หน้าที่รายงานตามมาตรา 13 และมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สหกรณ์ปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ทั้งนี้เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่สหกรณ์ ป้องกันไม่ให้สหกรณ์เป็นสถาบันที่สุ่มเสี่ยงต่อการฟอกเงิน ไม่ให้มีการละเว้นการปฏิบัติที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา