posttoday

Jubilee ปี 65 ทำกำไรนิวไฮ 311 ล้านบาท จ่ายปันผล 0.73 บาทต่อหุ้น

24 กุมภาพันธ์ 2566

บมจ. ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ (Jubilee) ทำสถิติกำไรสุทธิ 311 ล้านบาท เติบโต 38% หลังทำ Digital Transformation ใช้เทคสร้างโอกาสแข่งขันให้กับธุรกิจ ล่าสุดจ่ายปันผล 0.73 บาทต่อหุ้น ส่วนปี 2566 เล็งเติบโต 10%


นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ (JUBILE) เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทสร้างรายได้เติบโตมากกว่าเป้าหมาย และรักษาเป้าหมายกำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 45% ทำให้กำไรสุทธิปี 2565 เติบโตสร้างสถิติสูงสุดในประวัติการณ์อยู่ที่ 311 ล้านบาท เติบโต 38%

 

โดยมียอดขายสูงถึง 1,786 ล้านบาท เติบโต 17% เมื่อเทียบกับปี 2564 จากการยกระดับกลยุทธ์ Customer Centric โดยยึดความต้องการและการสร้างประสบการณ์พิเศษที่สุดให้กับลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงาน 

 

ขณะที่ในไตรมาส 4 ปี 2565 แม้จะมีปัจจัยลบจากเศรษฐกิจที่ยังผันผวนจากสภาวะเงินเฟ้อ สินค้าอุปโภคบริโภคราคาสูง แต่ด้วยช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองส่งท้ายปี รวมถึงการจัดงานอีเว้นท์ของ Jubilee ทำให้แนวโน้มการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สามารถสร้างยอดขายในไตรมาส 4 ปี 2565 ได้ 475 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 78 ล้านบาท 


อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้ผลการดำเนินงานดีขึ้น ยังมาจากการผสานแนวคิด Digital Transformation โดยการนำเอาเทคโนโลยีอย่าง AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ มาใช้ในกระบวนการทำงานและจัดการกับ Data Management จากพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าตัวจริงกว่า 200,000 ราย เพื่อตอบโจทย์ได้สอดคล้องกับยุคสมัยและพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น 


ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.73 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 127.2 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเป็นจำนวน 0.38 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดให้วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 เป็นวันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผลส่วนที่เหลือ 0.35 บาทต่อหุ้น และกำหนดจ่ายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ซึ่งบริษัทจะนำเสนอเพื่ออนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป


สำหรับปี 2566 Jubilee เชื่อว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมาย ที่ 10% แม้ยังมีปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจที่ค่าครองชีพสูงขึ้น  โดยในไตรมาสที่ 1 ด้วยนโยบายจากภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงได้รับอานิสงส์ของโครงการช้อปดีมีคืนที่สามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษีในปี 2566 อีกทั้งมีการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ตามเทศกาลต่าง ๆ ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดี ตลอดจนการทำกิจกรรมแคมเปญการตลาดที่เจาะกลุ่มเป้าหมายในทุก ๆ ไตรมาส 

 

รวมถึงในปีนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นในการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในการบริหารรวมถึงการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้าทั้งฐานสมาชิก The Sparkling Club และการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายรวมทั้งเพิ่มฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่อีกด้วย เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้เติบโตขึ้นและส่งผลต่อการเติบโตในผลประกอบการของบริษัทฯ