posttoday

NER ปักธงขึ้นแท่น 1 ใน 5 ผู้ผลิตยางธรรมชาติไทยปี 67

20 เมษายน 2566

NER วางเป้าขึ้นแท่น 1 ใน 5 ผู้ผลิตยางธรรมชาติไทยปี 67 เตรียมสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน คาดเสร็จในปี 67 รองรับการขยายตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ย้ำเป้าปริมาณขายปีนี้ 500,000 ตัน เคาะจ่ายปันผลครึ่งหลังปี 65 ในอัตรา 0.31 บาท/หุ้น

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้ผลิตยางธรรมชาติ อันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย ภายในปี 2567 ตามวิสัยทัศน์ของบริษัท 

โดยบริษัทมุ่งเน้นการขยายตลาดกลุ่มลูกค้าประเทศต่างๆ รวมถึงอินเดีย ซึ่งตั้งเป้ายอดขายสำหรับประเทศอินเดียประมาณ 10% ของยอดขายปี 2567 ปัจจุบันบริษัทมีการเซ็นสัญญากลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลายรายทั้งในประเทศจีน สิงคโปร์ อินเดีย และไทย

ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนการขยายกำลังการผลิตสินค้าประเภทยางแท่งและยางแท่งผสม โดยการลงทุนก่อสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน ใช้งบลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมการปรับปรุงที่ดิน คาดว่าโรงงานจะสร้างเสร็จและเริ่มมีรายได้ในปี 2567 ซึ่งภายหลังจากการขยายกำลังการผลิตดังกล่าว บริษัทจะมีกำลังการผลิตสินค้ารวมทั้งสิ้น 688,400 ตันต่อปี

นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะลดต้นทุนการผลิตในการดำเนินงาน เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economic of Scale) ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ภายในโรงงานได้ รวมถึงจะมีการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ภายในโรงงานแห่งที่ 3 เพื่อลดต้นทุนพลังงานเพิ่มเติมด้วย

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายรวมที่ 500,000 ตัน เติบโตจากปีที่แล้ว ที่มียอดขาย 446,090 ตัน เนื่องจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากประเทศจีนที่เปิดประเทศ และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มมากขึ้น 

ส่วนในปี 2565 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า 25,172.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 746.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น3.06% เมื่อเทียบกับปี 2564 และมีกำไรสุทธิรวม 1,748  ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.94%

นอกจากนี้ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ยังมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.38 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 702.16 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงิน 129.34 ล้านบาท ที่ได้จ่ายเมื่อวันที่ 7 ก.ย.2565 โดยคงเหลือเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายในครั้งนี้อีกในอัตราหุ้นละ 0.31 บาท คิดเป็นเงิน 572.81 ล้านบาท

การจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2565 คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 40.17% ของกำไรสุทธิหลังจากหักเงินทุนสำรองตามกฎหมาย ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 20 เม.ย.2566 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 21 เม.ย.2566 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พ.ค.2566