ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 19.97 จุด รับแรงกดดันหุ้นโรงไฟฟ้า-สื่อสาร-บจ.งบ Q1 แย่
ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 19.97 จุด โบรกฯ ชี้หุ้นโรงไฟฟ้ากดดัน หลังนโยบายพรรคก้าวไกลกระทบผลประกอบการกลุ่มโรงไฟฟ้าโดยตรง รับแรงขายหุ้นงบไตรมาส 1/66 แย่ เผชิญแรงทำกำไรในกลุ่มสื่อสาร ประเมินพรุ่งนี้มีโอกาสฟื้นตัว ในกรอบ 1,540-1,550 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ (15 พ.ค.) ปิดตลาดที่ 1,541.78 จุด ปรับลดลง 19.97 จุด หรือปรับลดลง 1.28% มูลค่าการซื้อขาย 68,382.81 ล้านบาท ระหว่างวันขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,570.62 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,536.82 จุด แบ่งตามประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 480.74 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิ 231.54 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 691.15 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,403.43 ล้านบาท
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง รับแรงกดดันจากกลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่พรรคก้าวไกล (พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล) ได้มีนโยบายหาเสียงไว้ว่ามีแผนจะลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนอย่างน้อย 70 สตางค์/หน่วย ซึ่งจะกระทบกับผลประกอบการกลุ่มโรงไฟฟ้าโดยตรง
นอกจากนี้ ยังรับแรงขายในหุ้นที่ผลประกอบการในไตรมาส 1/2566 ย่ำแย่ (BAM, CBG, SINGER, JMART, JMT) รวมไปถึงยังเผชิญแรงทำกำไรในกลุ่มสื่อสาร (ADVANC) หลังจากปรับขึ้นมาร้อนแรงช่วงก่อนหน้า
โดยปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ ดัชนีภาคผลิตของรัฐ New York โดย Bloomberg ประเมินไว้ที่ -3.7 หากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดการณ์มองว่าจะเป็นปัจจัยบวกให้กับตลาดหุ้นในแง่คลายความกังวลด้านเงินเฟ้อ
สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) ประเมิน SET INDEX มีโอกาสฟื้นตัว ในกรอบ 1,540-1,550 จุด จากการปรับลงมาแรงในวันนี้และมองกลุ่มโรงไฟฟ้าตอบรับข่าวลบไปแล้ว
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,641.33 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,51.66 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 1.75 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,879.04 ล้านบาท ปิดที่ 211.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,814.35 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,755.26 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง