ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 5.44 จุด กังวลจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า

ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ (24 ก.ค.) ปิดตลาดที่ 1,523.81 จุด ปรับลดลง 5.44 จุด หรือปรับลดลง 0.36% มูลค่าการซื้อขาย 50,652.91 ล้านบาท ระหว่างวันขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,537.15 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,520.77 จุด แบ่งตามประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 534.69 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิ 329.17 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 4,344.49 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 4,550.02 ล้านบาท  

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ในช่วงเช้ายังยืนแดนบวกได้ดีมองว่าเกิดจากการที่นักลงทุนผ่อนคลายกับประเด็นการเมือง หลังจากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายพลิกกลับเข้าสู่แดนลบ คาดว่านักลงทุนกังวลกับปัจจัยการเมือง หลังจากผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมเสนอชื่อ "พิธา" โหวตนายกฯ ซ้ำ ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ และขอศาลฯ ชะลอประชุมเสนอชื่อนายกฯ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ส่งผลให้นักลงทุนกังวลกับการจัดตั้งรัฐบาลที่อาจล่าช้าออกไปอีก ซึ่งจะกระทบต่อความเชื่อมั่นจากต่างชาติและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะยิ่งล่าช้าออกไป กดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ 

โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้ ได้แก่ ภาคผลิตเบื้องต้นของสหรัฐ (Flash PMI) Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 46.1 และ ภาคบริการที่ 54 

สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,510-1,530 จุด เชื่อว่าการเคลื่อนไหวยังจำกัด โดยรอดูปัจจัยสำคัญอย่างผลประชุมธนาคารกาลางสหรัฐ (FED) และการเลือกนายกฯ ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ (หากยังเกิดขึ้น)

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 9,632.03 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ลดลง 4.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,532.48 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,511.17 ล้านบาท ปิดที่ 107.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
KKP มูลค่าการซื้อขาย 1,623.43 ล้านบาท ปิดที่ 55.75 บาท ลดลง 4.75 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,611.26 ล้านบาท ปิดที่ 20.20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง