11 หุ้นเด่น รับอานิสงส์ นายกฯ ปิดดีล ดึง “Microsoft-Google” ลงทุนไทย 2 แสนล้าน

ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าหารือ กับผู้บริหารบริษัท Microsoft ณ โรงแรม เดอะริทซ์-คาร์ลตัน นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และผู้บริหารบริษัท Google ซึ่งได้มีการปิดดีลการลงทุนในไทยเป็นผลสำเร็จ โดยทั้ง 2 บริษัท จะเข้ามาลงทุนในไทยมากกว่าบริษัทละ 100,000 ล้านบาท

โดย Microsoft จะเน้นลงทุนเรื่อง “ดาต้าเซ็นเตอร์” และ “พลังงานสะอาด” ในไทย คาดว่าจะลงทุนเฟสแรก 100,000 ล้านบาท และ Google มีความตั้งใจที่จะเดินหน้าให้การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และความต้องการใช้ AI ที่เกิดขึ้นในหลายภาคส่วน จะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจอีกมหาศาล  

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาต่อเนื่องจนปัจจุบันสามารถขึ้นมายืนเหนือช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิดได้แล้ว โดยดัชนี GDP ในไตรมาส 2/2566 ของไทยอยู่ที่ 100.5 จุด ขณะที่ระยะถัดไปเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้มากขึ้น หลังรัฐบาลชุดใหม่เดินหน้าดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนให้ GDP GROWTH โต 5% จากปีก่อน

ขณะที่ภาคการลงทุนเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโต ซึ่งมีแนวโน้มที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยนักลงทุนต่างชาติมีโอกาสกลับมาลงทุนทางตรงเพิ่มขึ้น จากทิศทางใน 9 เดือนแรกของปี 2566 มีเงินลงทุน 415,323 ล้านบาท (913 โครงการ) สูงขึ้น 44.8% จากปีก่อน รวมถึงรัฐบาลเตรียมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนเชิงรุก 4 ปี (2567-2570)

ล่าสุด นายกฯ ได้เดินทางไปประชุมที APEC และประกาศความร่วมมือทงยุทธศาสตร์ กับ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอที“Google” และ “Microsoft” ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลที่สำคัญ ทั้ง CLOUD, AI, DATA CENTER โดยดึงเม็ดเงินเข้าประเทศกว่า 200,000 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าจะช่วยให้การลงทุนทางตรงและการลงทุนทางอ้อมมีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แนะนำ 5 หุ้นเด่น รับกระแสดังกล่าว ได้แก่ WHA, AMATA, INSET, AIT, ITEL

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ประเมินว่า จากการที่ Google และ Microsoft ประกาศลงทุนในไทย เม็ดเงินรวม 200,000 ล้านบาท (100,000 ล้านบาท เท่าๆ กัน) หรือราว 5,600 ล้านเหรีญฯ Microsoft เน้นลงทุน Data Center และพลังงานสะอาด ส่วน Google เน้นโครงสร้างพื้นฐาน Digital ในส่วน Data Center เช่นเดียวกัน และครอบคลุมฝั่ง AI

ทั้งนี้ มีมุมมองบวก เพราะ Digital จะเป็นอีกอุตสาหกรรมที่ช่วยต่อยอด S Curve ใหม่ของไทย จากปัจจุบันที่เริ่มเห็นชัดฝั่ง EV และยังไม่รวมที่รัฐบาลกำลังเร่งเจรจากับอีกหลายยักษ์ใหญ่ อาทิ Tesla, Walmart, Western Digital และ Amazon

ขณะที่อิงยอดเข้ามาลงทุนที่ยืนยันเบื้องต้นแล้วจะเปิด Upside มีนัยฯ ต่อ FDI อิงค่ามูลค่า FDI ไทยเฉลี่ยปี 2548-2566 อยู่ราวปีละ 8,500 ล้านเหรียญฯ 

ดังนั้นมองบวกต่อกลุ่มที่มีศักยภาพต่อยอดจากธุรกิจ Data Center อาทิ GULF, ADVANC, TRUE, THCOM, INSET อุตสาหกรรม Digital Transformation ที่เร่งขึ้น อาทิ BBIK, BE8 และกลุ่มนิคม อย่าง WHA, AMATA