NUSA แจงงบ Q3/66 เพิ่ม 4 ประเด็น หลัง ตลท. ตั้งข้อสงสัย
NUSA ชี้แจงงบไตรมาส 3/66 เพิ่มเติม 4 ประเด็น หลัง ตลท. ตั้งข้อสงสัยกรณีเกี่ยวกับโรงแรมในเยอรมนี การขายทรัพย์สิน การกู้ยืมเงินวางหลักทรัพย์ค้ำประกันเกินกว่ายอดเงินกู้ยืม 5 เท่า และความคืบหน้าการติดตามหนี้เงินให้กู้ยืมจาก มอร์ มันนี่
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานกรรมการ บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลในงบการเงินไตรมาส 3/2566 เพิ่มเติม บริษัทขอชี้แจงประเด็นต่างๆ ดังนี้
1. กรณีเกี่ยวกับโรงแรม Panacee Grand Hotel Roemerbad ซึ่งปัจจุบันเป็นของ NUSA แล้ว แต่รอแค่ใบอนุญาตดำเนินการโรงแรม โดยสามารถกลับรายการสินทรัพย์เป็นบวกพร้อมตีราคาตลาดรับรู้กำไรทันที
เนื่องจากเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทำเลใกล้ทั้งเมืองท่องเที่ยวของเยอรมนี คือ Baden Baden และ Freiburg im Breisgau สามารถขับรถไป Stuttgart, Strasbourg, Luzern สวิตเซอร์แลนด์ หรือไปเที่ยวเมือง Colmar ฝรั่งเศส ทำเลดีเยี่ยม และตัวอาคารโรงแรมเป็น National Heritage ของเยอรมนีด้วย
2. กรณีการการขายทรัพย์สินของบริษัท ซึ่งเป็นโครงการค้างสต็อก จากเงื่อนไขของการขายน่าเป็นห่วงคนซื้อมากกว่า เพราะผู้ซื้อต้องลงทุนอีกมากกับแปลงที่ดินเปล่า โดยในตอนนี้ตลาดรู้ดีว่ามีคนเร่ขายกันเพียบแต่คนซื้อไม่กล้าควัก มาเคสนี้คนซื้อกำไรต้องแบ่งกำไรให้ NUSA ครึ่งหนึ่ง แถมต้องรับขาดทุนคนเดียว ซึ่ง NUSA มีข้อสงสัยกับคำถามของตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นห่วงคนขายหรือคนซื้อกันแน่
3. การกู้ยืมเงินจากกิจการอื่น โดยวางหลักทรัพย์ค้ำประกันเกินกว่ายอดเงินกู้ยืม 5 เท่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วราคาทุนกับราคาตลาดเป็นคนละเล่ม เพราะถ้าเทียบราคาตลาดก็แค่ 2 เท่ากว่า ถ้าคิดราคาหุ้น DEMCO วันนี้ ซึ่ง NUSA มองว่าที่น่าห่วงผู้ให้กู้มากกว่า
4. ความคืบหน้าการติดตามหนี้เงินให้กู้ยืมจาก มอร์ มันนี่ ซึ่งปัจจุบันครบกำหนดชำระหนี้ โดยมีการขยายระยะเวลามาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่ง ตลท. ขอให้สรุปยอดหนี้และดอกเบี้ย ที่ผ่านมาบริษัทได้รับชำระดอกเบี้ยหรือไม่ และข้อสรุป หรือความคืบหน้าในการพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายกับ มอร์ มันนี่
บริษัทขอชี้แจงว่า บริษัท มอร์ มันนี่ ไม่ใช่ลูกค้าทั่วไป แต่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เนื่องจากบริษัท โดยบริษัทย่อยของกิจการร่วมค้า มีการวางแผนดำเนินธุรกิจ Event คือ Rolling Loud ทั้งนี้ บริษัทมอร์ มันนี่ ได้เข้ามาพัฒนาพื้นที่ในที่ดินว่างเปล่าของบริษัท เพื่อรองรับการจัดกิจกรรมในปี 2566 ที่ผ่านมา โดยมูลค่าเงินลงทุนดังกล่าวคิดเป็นจำนวนเกินกว่า 100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การจัดงาน Rolling Loud มีค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ การลงทุนปรับปรุงพื้นที่จำนวนมาก ส่งผลให้บริษัท มอร์ มันนี่ ขาดสภาพคล่อง
ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารของบริษัทอยู่ในระหว่างการหารือกับ บริษัท มอร์ มันนี่ ซึ่งจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนของแนวโน้มผลการดำเนินงานของ Rolling Round ในปี 2567