posttoday

ก.ล.ต. ติดตาม Z.com ใกล้ชิด กำชับให้ดำเนินการตามสัญญาลูกค้า

29 พฤษภาคม 2567

ก.ล.ต. ติดตามสถานการณ์ Z.com ใกล้ชิด กำชับให้ดำเนินการเป็นไปตามสัญญาที่มีกับลูกค้าอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม ระบุ บล. กว่า 98% ดำรงเงินกองทุนได้กว่า 2 เท่าของเกณฑ์ขั้นต่ำ ด้าน Z.com ยันบริษัทแม่ไม่มีแผนยกเลิกกิจการในไทย-ยังไม่มีการเรียกคืนหนี้

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้ติดตามสถานการณ์และสื่อสารกับ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Z.com มาโดยตลอด รวมถึงได้กำชับให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปตามสัญญาที่มีกับลูกค้า ในลักษณะที่เหมาะสมและเป็นธรรม 

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน บล. ทุกแห่งสามารถดำรงเงินกองทุนได้สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ โดยส่วนใหญ่ (ประมาณ 98% ของ บล.) สามารถดำรงเงินกองทุนได้มากกว่า 2 เท่าของเกณฑ์ขั้นต่ำ แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีสินทรัพย์สภาพคล่องสุทธิเพียงพอชำระหนี้สินทั้งหมดที่มีต่อลูกค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 27 พ.ค.2567) 

โดย ก.ล.ต. ได้มีการกำกับดูแล โดยติดตามสถานะการดำรงเงินกองทุนของ บล. เป็นรายวัน และกำกับดูแลระบบงานของ บล. ในหลายด้าน โดยในส่วนของการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (margin loan) บล. ต้องมีการบริหารความเสี่ยง ตั้งแต่การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ให้มาร์จิ้นได้ (marginable securities) กำหนดอัตรามาร์จิ้นเริ่มต้น (initial margin) ที่เหมาะสม มีการติดตามระดับมาร์จิ้น (maintenance margin) หากต่ำลงถึงระดับที่กำหนด ต้องเรียกหลักประกันเพิ่ม (call margin) หากต่ำลงไปอีก บล. สามารถบังคับขายหลักประกันได้ (force sell) ทั้งนี้ อัตรามาร์จิ้นที่ บล. กำหนด ต้องไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ก.ล.ต. หรือตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดด้วย 

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังติดตามการกระจุกตัวของหุ้นที่ปล่อยมาร์จิ้น สัดส่วนการปล่อยมาร์จิ้นเทียบกับเงินกองทุนของบริษัท เพื่อใช้ในการประเมินความเสี่ยงของ บล. ตลอดจนผลกระทบต่อสภาพตลาด และระบบการซื้อขายโดยรวมด้วย  

ในกรณีที่ลูกค้ามีอัตรามาร์จิ้นต่ำจนใกล้ หรือถึงระดับที่ต้องเรียกหลักประกันเพิ่ม บล. มักมีการเจรจากับลูกค้าเพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกันก่อนที่จะถึงระดับบังคับขายด้วย  

ณ วันที่ 27 พ.ค.2567 บล. มีเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) เฉลี่ยต่อรายที่ 1,520 ล้านบาท และอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) เฉลี่ยต่อรายที่ 282% (เกณฑ์ดำรง NCR ขั้นต่ำ 7%) และในขณะที่ margin loan ในปัจจุบัน มีหลักประกันที่ครอบคลุมมูลหนี้สูงถึง 3 เท่า 

ทั้งนี้ เกณฑ์ขั้นต่ำ กำหนดให้ บล. ดำรง NC > 25 ล้านบาท กรณีประกอบทั้งธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือ > 15 ล้านบาท กรณีประกอบธุรกิจหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอย่างใดอย่างหนึ่ง และกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ดำรง NCR > 7% ของหนี้สินทั่วไปและทรัพย์สินที่ลูกค้าวางไว้เป็นประกันเพื่อซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 

ด้าน บล.จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Z.com แจ้งผ่านเว็บไซต์ของบริษัทว่า จากที่ปรากฎ ในข่าว ทั้งสี่อโชเชียลมีเดีย และสื่อต่างๆ เพื่อทำให้เข้าใจว่าบริษัทจะปิดกิจการในประเทศไทย บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และทำให้เกิดความสับสน ซึ่งบริษัทไม่เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว 

บล.จีเอ็มโอ-แซดคอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทในเครือ GMO Internet Group ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น สถานะทางการเงินของบริษัทแม่มีความมั่นคงสูง และนอกเหนือจากนั้น บริษัทแม่ได้ยืนยันมาแล้วว่า บริษัทแม่ไม่มีแผนที่จะยกเลิกกิจการในประเทศไทย และยังคงสนับสนุนให้บริษัทดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไป

ในส่วนของการยุติการให้บริการบัญชีมาร์จิ้นนั้น บริษัทขอยืนยันว่ายังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาทบทวนแผนการยุติเท่านั้น โดยบริษัทยังไม่มีการเรียกคืนหนี้ หรือกระทำการใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งบริษัทได้รายงานและหารือกับสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมรับข้อสังเกตมาพิจารณาประกอบการจัดทำแผนในการดำเนินการ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อลูกค้า และภาวะการซื้อขายในตลาดโดยรวม

และการปรับหุ้นทุกตัวในบัญชีมาร์จิ้นเป็นเกรด F ไปก่อนหน้านั้น การดำเนินการดังกล่าว ไม่ทำให้มีการบังคับขายเกิดขึ้น และไม่ส่งผลต่อนักลงทุนทั้งสิ้น หากแต่การปรับหุ้นเป็นเกรด F หมายความว่า บริษัทจะไม่ทำการปล่อยกู้เพิ่ม

หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนการดำเนินธุรกิจ ทางบริษัทจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะผ่านช่องทางหลักของบริษัท

ก.ล.ต. ติดตาม Z.com ใกล้ชิด กำชับให้ดำเนินการตามสัญญาลูกค้า