posttoday

ด่วน! DSI ถึงดูไบ เตรียมนำตัว ชนินทร์-STARK กลับไทยพรุ่งนี้

22 มิถุนายน 2567

DSI บินด่วน ถึงดูไบแล้ว เตรียมนำตัว “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” อดีตผู้บริหาร STARK กลับไทยมาดำเนินคดีพรุ่งนี้ หลังรับคดีทุจริต STARK เป็นคดีพิเศษ หวังเรียกความเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทยกลับมาอีกครั้ง

 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ (DSI) เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ DSI เดินทางไปถึงนครดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว แต่รอขั้นตอนนครดูไบส่งมอบตัว นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตผู้บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK คาดว่าจะได้ตัวกลับมาเร็วๆ นี้ 

หลังจากก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประสานไปยังสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมตัว นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตผู้บริหาร STARK เนื่องจากทางการไทยสืบทราบมาว่า ขณะนี้ นายชนินทร์ หลบหนีคดีอยู่ที่นครดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์

อนึ่ง คดีการทุจริตใน STARK ทาง DSI รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2566 มีผู้เสียหายทั้งสิ้นจำนวน 4,704 ราย มูลค่าความเสียหายจำนวน 14,778 ล้านบาท (คดีพิเศษที่ 57/2566) และเป็นที่คดีที่รัฐบาลเร่งการติดตามอย่างมาก เพื่อเรียกความเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทยกลับมาอีกครั้ง

สำหรับดคี STARK ที่ผ่านมา DSI สั่งฟ้องผู้ต้องหา รวม 11 คน ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา และฐานฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

คดีฉ้อโกงดังกล่าว มีความซับซ้อน  DSI ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษแล้ว หลังจากอธิบดี DSI มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 11 ราย พร้อมมอบเอกสารพยานหลักฐานทั้งสิ้นจำนวน 22 ลัง 140 แฟ้ม 52,968 แผ่น 

ล่าสุดรายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะนำตัวนายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตผู้บริหาร STARK กลับจากนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาดำเนินคดีที่ประเทศไทย โดยคาดว่าจะเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 07.00น. วันพรุ่งนี้ (23 มิ.ย.) โดยเข้าที่ประตู 10 ชั้น 2 

นอกจากนี้ คณะพนักงานฯ พบว่า มีการนำเงิน 10,000 ล้านบาท โอนเข้ากลุ่มบริษัทของผู้ต้องหาเพื่อไปชำระหนี้เจ้าหนี้การค้า รวมทั้งยักย้ายถ่ายเทเข้าบัญชีส่วนตัวอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งได้ส่งข้อมูลให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันการฟอกเงิน (ปปง.) ติดตามยึดทรัพย์สินดังกล่าวเพื่อดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 49 วรรคท้าย ต่อไป