posttoday

"เจ้าสัวเจริญ"สั่งปรับพอร์ตใหญ่ ดึง "เสริมสุข"ออกจากตลาดหุ้น

04 กรกฎาคม 2567

จับตา "กลุ่มไทยเบฟฯ" ปรับพอร์ตลงทุนครั้งใหญ่ ทุ่มเงิน 5,918.58 ล้านบาท ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ "เสริมสุข (SSC)" ทั้งหมดที่ราคา 63 บาท ดันราคาพุ่งเฉียด 13 บาท ก่อนเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้ำชัดเพิ่มความคล่องตัวธุรกิจ

     ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC" เปิดการซื้อขายวันนี้ (4 กรกฎาคม 2567) กระโดดไปที่ราคา 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.75 บาท ก่อนขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 62.25 บาท

     และ ณ เวลา 12.06 น. ราคา SSC อยู่ที่ 61.75 บาท เพิ่มขึ้น 12.50 บาท คิดเป็น +25.38% มูลค่าการซื้อขาย 14.60 ล้านบาท จากวานนี้(3 กรกฎาคม 2567) ราคาแปิดที่ 49.25 บาท

     เกิดอะไรขึ้น!!!!!!!!!

     "บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC" แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้(3 กรกฎาคม 2567)ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า "บริษัท โซ วอเตอร์ จำกัด" ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SSC และเป็นบริษัทย่อยของ "บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)" แจ้งความประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ SSC เพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 

     "โซ วอเตอร์" ถือหุ้น SSC จำนวน 171,954,804 หุ้น คิดเป็น 64.67% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยมีความประสงค์ทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดของบริษัท จำนวน 93,945,680 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 35.33% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท ในราคาเสนอซื้อ 63 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาสูงสุดที่คำนวณได้ตามวิธีการกำหนดราคาเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ภายใต้ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน

     แล้ว...ทำไมต้องเพิกถอนหุ้น SSC ?

     "โซ วอเตอร์" ชี้แจงว่าการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจะช่วยให้การบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจของบริษัทมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เนื่องจากการลดขั้นตอนการดำเนินการต่างๆของบริษัทในฐานะบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะส่งผลให้การบริหารกิจการและการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น

     อีกทั้งกลุ่มไทยเบฟอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และ/หรือเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยอาจมีการดำเนินการปรับโครงสร้างภายในและการปรับโครงสร้างธุรกิจด้านต่างๆ

     ปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มีจำนวนไม่มากนัก การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์จะเป็นประโยชน์ต่อสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัท โดยเป็นการช่วยเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อย

     เงื่อนไขสำคัญตั้งโต๊ะเทนเดอร์  

     การเข้าทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์จะเกิดขึ้นต่อเมื่อเงื่อนไขดังต่อไปนี้สำเร็จครบถ้วน นั่นก็คือ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท และต้องไม่มีผู้ถือหุ้นคัดค้านการเพิกถอนหุ้นเกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท

     และ การเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจะต้องได้รับอนุมัติ และ/หรือผ่อนผันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ตลาดหลักทรัพย์ฯ สถาบันการเงิน และคู่สัญญาอื่นๆตามสัญญาที่เกี่ยวข้อง (ในกรณีที่จำเป็น)

     นอกจากนี้ อนุมัติโดยความเห็นชอบของกรรมการอิสระที่ไม่มีส่วนได้เสียให้แต่งตั้ง "บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด" ป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อทำหน้าที่เสนอแนะความเห็นและชี้แจงต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท เพื่อประกอบการพิจารณาข้อเสนอของผู้ทำคำเสนอซื้อ และการขอเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท และเสนอแนะความเห็นต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท เพื่อประกอบการพิจารณาคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ตาม แบบ 250-2 โดยการทำหน้าที่ดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติการ เพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ และผู้ทำคำเสนอซื้อได้ยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์แล้ว

     โดยกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ของบริษัท ในวันที่ 27 สิงหาคม 2567 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุม (Record date) ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2567