NAT ครึ่งแรก 67 ฟาดกำไร 109.20 ล้าน พุ่ง 66.77% แจกปันผลระหว่างกาล 0.22 บ./หุ้น
NAT โชว์ครึ่งปีแรก 2567 ทำนิวไฮต่อเนื่อง กำไรสุทธิ 109.20 ล้านบาท พุ่ง 66.77% จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.22 บาท/หุ้น ขึ้น XD 26 ส.ค.นี้ แนวโน้มไตรมาส 3/67 มุ่งผลักดันรายได้ให้เข้าเป้าโต 30% ในปี 67 ตุนแบ็กล็อกกว่า 684 ล้านบาท
นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งแรกปี 2567 บริษัทสามารถทำสถิติสูงสุด (นิวไฮ) มีกำไรสุทธิ 109.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.77% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 65.48 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,324.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.98% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 788.25 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 54.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.52% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 50.77 ล้านบาท และมีรายได้รวม 593.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.50% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 444.24 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตทั้งรายได้และกำไร จากการรับรู้รายได้ผ่านการส่งมอบงานโครงการต่างๆ ให้แก่กลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,320.34 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง และ รับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จำนวน1,201.17 ล้านบาท อาทิ งานระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Solution), งานด้านระบบคลาวด์ (Cloud Solution), งานระบบโครงสร้างพื้นฐานไอที (IT Infrastructure Solution)
และธุรกิจให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จำนวน 119.17 ล้านบาท เช่น งานโครงการให้บริการเจ้าหน้าที่ด้านไอที, งานระบบไฟฟ้า การสื่อสาร และความปลอดภัย รวมถึงการให้บริการเช่าอุปกรณ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2567 คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2567 และกำไรสะสมเป็นเงินสด ในอัตรา 0.22 บาท/หุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 26 ส.ค.2567 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 27 ส.ค.2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 ก.ย.2567
สำหรับทิศทางการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3/2567 บริษัทมั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตของรายได้ให้เพิ่มขึ้นตามแผนที่วางไว้ที่ 30% ในปี 2567 และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและบริการอื่นๆ ตามความต้องการของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
ขณะเดียวกัน บริษัทเพิ่มโอกาสการเติบโตผ่านแผนการเข้าประมูลงานเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานและงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายมูลค่างานในมือ (Backlog) ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมี Backlog จำนวน 53 โครงการ มูลค่าทั้งสิ้น 684.64 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2567) โดยเน้นที่กลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพ และสามารถสร้างกำไรให้กับบริษัทมากขึ้น อาทิ กลุ่มธุรกิจพลังงาน และ กลุ่มโรงพยาบาล รวมถึงมีแนวโน้มความต้องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก