posttoday

ส่องกลุ่มหุ้นรับอานิสงส์ระยะสั้น-ยาว “ทักษิณ” เปิดวิสัยทัศน์ฟื้นประเทศ

23 สิงหาคม 2567

อินโนเวสท์ เอกซ์ มอง “ทักษิณ ชินวัตร” เปิดวิสัยทัศน์ฟื้นประเทศ ในงาน Vision for Thailand 2024 เป็นบวกต่อ SET และเศรษฐกิจไทย พร้อมเปิดกลุ่มหุ้นรับอานิสงส์ระยะสั้น-ยาว

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า วานนี้ (22 ส.ค.) จากเวทีแสดงวิสัยทัศน์ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ในงาน Vision for Thailand 2024 สามารถสรุปได้ดังนี้ 

1.ปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือน และธุรกิจ คลังต้องคุยกับสมาคมธนาคารว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร

2.ประสานนโยบายเศรษฐกิจกับ ธปท. เพื่อให้นโยบายการเงินและการคลังไปทางเดียวกัน เช่น ธปท. ลดอุปทานเงิน 1% ตั้งแต่ พ.ค. แต่รัฐบาลมองว่าต่างจังหวัดขาดสภาพคล่อง ทำให้เศรษฐกิจเดินไม่ได้

3.ดิจิทัลวอลเล็ต-นำงบเพิ่มเติมปี 1.22 แสนล้านบาท และ งบกลางอีก 2 หมื่นล้านบาท แจกเป็นเงินสดให้กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้พิการ รวม 14.5 ล้านคน ในเดือน ก.ย. ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่วนงบประมาณใหม่ที่ออกมาในเดือน ต.ค. จะจ่ายให้กับคนที่ลงทะเบียนแล้วเป็นระบบดิจิทัลวอลเล็ต 30 ล้านคน

4.ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม-ดาต้าเซนเตอร์ กรีนเอนเนอร์ยี่ขอจีนให้ไทยฐานผลิตรถไฟฟ้าพวงมาลัยขวาและฐานยิงดาวเทียมขนาดเล็ก

ส่องกลุ่มหุ้นรับอานิสงส์ระยะสั้น-ยาว “ทักษิณ” เปิดวิสัยทัศน์ฟื้นประเทศ

5.การแข่งขันของ SMEs ที่สู้สินค้าจีนได้ลำบาก ต้องมีการตรวจสอบสินค้าอย่างเข้มข้น อย่าให้เอาเปรียบสินค้าไทย

6.หนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์สร้างรายได้ เช่น มวยไทย รวมทั้งการสนับสนุนอีสปอร์ตและสนับสนุนแฟชั่นโชว์

7.การปฏิรูปการเกษตรใหม่ ปัจจุบันเราไม่สามารถที่จะสู้เวียดนามได้ในการผลิตข้าว คุณภาพข้าวดีกว่า ไทยต้องใช้ R&D ช่วย เราสามารถทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางอาหารและช่วยประเทศอื่นๆ ได้

8.เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว ขยายสุวรรณภูมิ สร้างและปรับปรุงสนามบินให้มากขึ้น รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยว Man Made การแก้กฎหมายเพื่อแก้ระเบียบอำนวยความสะดวกให้ Private Jet มากขึ้น

9.Entertainment Complex มีสวนสนุก โรงแรม พื้นที่กาสิโนมีไม่ถึง 10% กทม.ต้องลงทุนเป็นแสนล้านบาท และต่างจังหวัดแห่งละ 5 หมื่นล้านบาท 

ส่องกลุ่มหุ้นรับอานิสงส์ระยะสั้น-ยาว “ทักษิณ” เปิดวิสัยทัศน์ฟื้นประเทศ

10.การลงทุนขนาดใหญ่ต้องเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีของรัฐบาลนี้ รวมทั้งลงทุนแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ถมทะเลบางขุนเทียน-ปากน้ำเป็นเมืองใหม่

11.โครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.-หนองคาย ต้องเสร็จในปีหน้า ส่วนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาท ต้องทำเวนคืนรถไฟฟ้าบางสายมาบริหารเอง โดยเสนอให้ตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และเก็บค่ารถใช้น้ำมันที่เข้าเขตเมือง เพื่อหนุนคนมาใช้ระบบสาธารณะและลดความแออัดการจราจร

12.ผลักดันเรื่องของการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ทั้งประเทศ หรือลดค่าน้ำมันไฟฟ้าในประเทศได้

13.เป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก ให้ธนาคารทั่วโลกเข้ามาลงทุนในไทย และแบงก์ไทยก็ไปตั้งในต่างประเทศได้

ส่องกลุ่มหุ้นรับอานิสงส์ระยะสั้น-ยาว “ทักษิณ” เปิดวิสัยทัศน์ฟื้นประเทศ

14.นำเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน เพื่อเก็บภาษีไปใช้ เช่น ทุนการศึกษาเด็กนักเรียน, จ้างครูเก่งๆ มาสอนในประเทศ ทำให้ GDP โตได้อีก 50%

15.การขยายกองทุนวายุภักษ์ เพื่อซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็นใน SET 50 และ SET 100

16.การปรับภาษีให้เป็นธรรมและแข่งขันได้ เช่น Negative Income Tax คนรายได้น้อยไม่เสียภาษี และคนที่มีรายได้สูงจะเสียภาษีอย่างเป็นธรรม

17.ปรับลดขนาดของราชการ และการปฏิรรูประบบราชการ การใช้เทคโนโลยีให้กับระบบราชการมากขึ้น รวมทั้งการปรับลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น

ส่องกลุ่มหุ้นรับอานิสงส์ระยะสั้น-ยาว “ทักษิณ” เปิดวิสัยทัศน์ฟื้นประเทศ

ทั้งนี้ มองว่า ประเด็นสำคัญ คือ ต้องการเพิ่มอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ด้วยการเพิ่มสภาพคล่อง (กำลังซื้อ) และลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม และสร้างความเชื่อมั่นเพื่อดึงเงินทุนจากต่างชาติกลับมาไทย

นอกจากนี้ มองว่า มีบางประเด็นที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เร็ว ได้แก่ 1) การเดินหน้าแจกเงินสดให้แก่กลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้พิการ วงเงิน 1.45 แสนล้านบาท ในเดือน ก.ย.นี้ และเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ตในอนาคต 2) การประสานนโยบายเศรษฐกิจระหว่างคลังและ ธปท. ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งคาดจะทำให้มีโอกาสนโยบายการเงินผ่อนคลายขึ้นและการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือน และ 3) เดินหน้าขยายกองทุนวายุภักษ์ ตามแผนเดิมของรัฐบาลก่อน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้นไทย ส่วนประเด็นที่เหลือคงต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาพิจารณาดำเนินการต่อไป

สำหรับกลยุทธ์ลงทุนช่วงสั้น มีมุมมองบวกต่อ SET และเศรษฐกิจไทย หลังการเปิด Vision ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ซึ่งคาดมีโอกาสเป็นแผนของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะนำไปดำเนินการเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมองประเด็นที่คาดจะเห็นผลในระยะสั้น คือ 

1) การแจกเงินสดให้กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้พิการ ในเดือน ก.ย. ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังซื้อและหนุนบรรยากาศจับจ่ายใช้สอย จึงเป็นบวกมากสุดต่อกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPAXT, CPALL, BJC, TNP และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (OSP, CBG) ส่วนกลุ่มรองมาที่คาดได้ประโยชน์ทางอ้อม คือ กลุ่มสื่อโฆษณาและกลุ่มร้านอาหาร

2) การขยายกองทุนวายุภักษ์ คาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศลงทุนจากเม็ดเงินใหม่ที่จะไหลเข้าสู่ตลาด (ข่าวล่าสุด 1-1.5 แสนล้านบาท) และช่วยรักษาเสถียรภาพให้กับตลาดด้วย โดยเฉพาะหุ้น SET50-SET100

และ 3) การปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและธุรกิจ มองเป็นกลางต่อกลุ่มธนาคาร แต่อาจส่งผลบวกต่อกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มยานยนต์จากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น

ส่วนนโยบายที่เหลือคาดเป็นโอกาสส่งผลบวกในระยะยาว ซึ่งยังให้น้ำหนักน้อย เนื่องจากต้องมีการศึกษา เจรจาเพิ่มเติม โดยหากทำได้จริงจะส่งผลบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มขนส่ง กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน กลุ่มอาหาร กลุ่มอสังหา กลุ่มนิคม กลุ่มสื่อสาร กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง

ส่องกลุ่มหุ้นรับอานิสงส์ระยะสั้น-ยาว “ทักษิณ” เปิดวิสัยทัศน์ฟื้นประเทศ