ตลท.เดินเกมขยายตลาด"ดึงบริษัทระดมทุน-เพิ่มผลิตภัณฑ์"ปั้นเสน่ห์หุ้นไทย

     ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในงาน Thailand Focus 2024: Adapting to a Changing World กล่าวว่า ประเทศไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อุตสาหกรรมใหม่ และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก เรามองเห็นการเติบโตของอุตสาหกรรมใหม่ การลงทุนเพื่อย้ายฐานการผลิต การเปลี่ยนเข้าสู่ดิจิทัล รวมทั้งการรังสรรค์นโยบายหลากหลายเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก ซึ่งต่างเป็นเงื่อนไขสำคัญของการปรับตัวของประเทศไทยเพื่อไปสู่ระบบนิเวศทางเศรษฐกิจใหม่

     ตลาดหลักทรัพย์ฯเห็นความจำเป็นของการโอบรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เพื่อทำให้ตลาดของเราเติบโตอย่างยั่งยืน และมีความทนทานต่อกระแสการเปลี่ยนแปลง การสัมมนาวันนี้ออกแบบมาเพื่อให้สะท้อนต่อธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง และการปรับตัวต่างๆ เราจะพูดถึงความก้าวหน้าของตลาดทุนไทยท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง ผลกระทบของการปรับตัวของอุตสาหกรรม และการลงทุน รวมทั้งศักยภาพของไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการแพทย์ในภูมิภาค  

     นอกจากนี้ เราจะพูดคุยกันถึงบทบาทของนวัตกรรมดิจิทัลในการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งระบุถึงโอกาสจากนโยบายที่จะเกิดขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง  

"ตลาดหลักทรัพย์ฯมุ่งมั่นจะทำให้เวทีนี้เป็นที่ซึ่งเหล่าผู้กำหนดนโยบายชั้นนำ และผู้เล่นต่างๆ ในตลาดมาแลกเปลี่ยนความชำนาญและมุมมองระหว่างกัน และเป้าหมายของเราก็คือก่อให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่ภาคธุรกิจต่างๆจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ผู้ลงทุนสามารถพบโอกาสใหม่ๆ และก่อให้เกิดประโยชน์สังคมในวงกว้างจากการดำเนินงานของพวกเรา"

     อย่างไรก็ดี ด้วยการเมืองไทยมีความแน่นอนขึ้นและบริษัทจดทะเบียนมีความสามารถในการทำกำไรได้ดีขึ้น นี่คือปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันดัชนีหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ที่สำคัญข้อมูลต่างๆจากนโยบายภาครัฐช่วยให้นักลงทุนมองเห็นเศรษฐกิจในอนาคตว่าจะมีหน้าตาอย่างไรบ้าง ถือเป็นข้อมูลที่ดีช่วยให้บรรยากาศที่ดีขึ้นในการลงทุน 

"หน้าที่สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯคือ 1.ระดมทุนให้ธุรกิจในประเทศสามารถขยายกิจการได้ และ 2.เป็นแหล่งลงทุนของนักลงทุนในประเทศ สถาบันและต่างประเทศ ดังนั้นภาระกิจหลักของเราคือจะทำอย่างไรให้ตลาดทุนใหญ่ขึ้น มีความเข้มแข็งและสามารถระดมทุนได้มาก อีกทั้งนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในผลิตภัณฑ์ในประเทศและต่างประเทศได้หลากหลายมากขึ้น นี่คือภารกิจหลักของตลาดหลักทรัพย์ฯ"

     ส่วนผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯจะมีผลกระทบต่อธุรกิจไทยหรือไม่นั้น ผมมองว่าต้องรอดูความชัดเจนว่าคนที่ชนะการเลือกตั้งมีนโยบายอย่างไร จะเป็น Protectionism หรือ Pro Business ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมใดจะได้รับผลกระทบมากน้อยขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มไหนจะเป็นจุดที่ผู้ชนะเลือกตั้งโฟกัส